back to top
HomeWatches & JewelryCHANEL J12 BLEU: ไอคอนที่มาเพื่อสร้างตำนานบทใหม่ในโลกเรือนเวลาชั้นสูง 

CHANEL J12 BLEU: ไอคอนที่มาเพื่อสร้างตำนานบทใหม่ในโลกเรือนเวลาชั้นสูง 

Crafting Tomorrow’s Icons of Haute Horlogerie 

นาฬิการุ่นไอคอนิกอย่าง J12 ทำหน้าที่ถ่ายทอดความงดงามของเรือนเวลาชั้นสูงผ่านแนวคิดและการออกแบบที่สะท้อนดีเอ็นเอของเมซงได้อย่างสมบูรณ์แบบเสมอมา นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 และวันนี้ในโอกาสฉลองครบรอบ 25 ปี CHANEL ก็พร้อมเชิญชวนใครก็ตามที่หลงใหลในสไตล์ที่มาพร้อมกับความประณีตและความเที่ยงตรงเป็นเลิศ ให้ก้าวสู่มิติใหม่ของความเชี่ยวชาญและพลังสร้างสรรค์ ผ่านความล้ำลึก โดดเด่น และทรงพลังของเซรามิกสีน้ำเงิน ในไอคอนใหม่ล่าสุดของวงการอย่าง CHANEL J12 BLEU 

เซรามิกที่มีความแข็งแกร่งทนทานคือหัวใจสำคัญของ J12 มาตั้งแต่แรกเริ่ม และ BLEU ก็ไม่ใช่คำศัพท์ใหม่ทั้งสำหรับเมซง และคนรัก CHANEL ที่คุ้นเคยกับพาเลตต์สีน้ำเงินเข้มขรึม ลุ่มลึก บ่งบอกอัตลักษณ์ของแบรนด์เป็นอย่างดี นับตั้งแต่กล่องเครื่องประดับคอลเลกชั่น ‘Bijoux de Diamants’ ในปี 1932 มาจนถึงน้ำหอม BLEU DE CHANEL ที่ยืนหยัดเป็นน้ำหอมในดวงใจของผู้ชายที่รักในความเป็นอิสระ ความกล้า และพร้อมจะค้นพบตัวตน วันนี้ BLEU ทำหน้าที่ของตัวเองอีกครั้ง พร้อมๆ กับยกระดับมาตรฐานนาฬิกาหรูไปอีกขั้น ในฐานะเรือนเวลาคอลเลกชั่นพิเศษที่สะท้อนนวัตกรรมด้านวัสดุของแบรนด์ ความเป็นเลิศด้านดีไซน์ บ่งบอกความเป็นผู้ชายแบบร่วมสมัย ผสมผสานความสุขุมและความโดดเด่นชวนมองได้อย่างกลมกลืน 

ความหรูหรา ลุ่มลึก และเปี่ยมพลังของเซรามิกสีน้ำเงินด้านที่เป็นเอกลักษณ์ของ J12 BLEU 

ผลงานระดับมาสเตอร์พีซด้านดีไซน์และวัสดุศาสตร์ 

25 ปีก่อนหน้านี้นาฬิกา CHANEL J12 ได้ปฏิวัติวงการด้วยการยกระดับเซรามิกให้กลายเป็นซิกเนเจอร์อันทรงคุณค่า และ J12 BLEU ก็กำลังสร้างตำนานบทใหม่ด้วยเซรามิกสีน้ำเงินด้านเนื้อละเอียดที่มีความแข็งแกร่งทนทาน ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างเข้มข้นกว่า 5 ปี จนได้เฉดสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างที่อาร์โนด์ เชสแตงต์ ผู้อำนวยการฝ่ายสตูดิโอสร้างสรรค์นาฬิกาของชาเนล เล่าถึงเป้าหมายในการสร้างสรรค์ผลงานนี้ว่าเป็น “สีน้ำเงินที่ดูหรูหราและเปี่ยมพลัง มีชีวิตชีวา เป็นน้ำเงินที่เกือบจะดำ หรือดำที่เกือบจะเป็นน้ำเงิน” ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นทุ่มเทของเมซงที่พัฒนาด้านวัสดุศาสตร์อย่างไม่หยุดยั้ง 

ด้วยคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วน น้ำหนักเบา และผิวสัมผัสแบบด้านที่ดูนุ่มนวล รูปลักษณ์ที่ดูสง่างาม และพร้อมรับทุกสถานการณ์ในขณะเดียวกัน ทำให้นาฬิกา CHANEL J12 BLEU กลายเป็นไอเท็มที่ชายหนุ่มผู้มีความมุ่งมั่นในเป้าหมายสามารถสวมใส่บนข้อมือได้ทั้งในโอกาสที่เป็นทางการหรือวันพักผ่อน 

ความแม่นยำกับนวัตกรรมที่บรรจบ 

J12 BLEU เปิดตัวภายในงาน Watches & Wonders 2025 ทั้งสิ้น 9 รุ่น ไล่เรียงขนาดตั้งแต่ 28 มม. ไปจนถึง 42 มม. นาฬิกากลไกทุกรุ่นผสมผสานทักษะความเชี่ยวชาญและสมรรถนะอันยอดเยี่ยมไว้เต็มเปี่ยม การันตีความเที่ยงตรงแม่นยำด้วยการรับรองมาตรฐาน COSC สถาบันตรวจสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ โดยสองกลไกที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ต้องยกให้กลไกอัตโนมัติสองชุด คือคาลิเบอร์ 12.1 ที่สามารถสำรองพลังงานสูงถึง 70 ชั่วโมง กันน้ำที่ระดับความลึก 200 เมตร ซึ่งเป็นหัวใจของ J12 BLEU CALIBER 12.1 38 MM ทั้งสองรุ่น ให้เลือกระหว่างขีดเครื่องหมายบอกเวลาวัสดุแซฟไฟร์ทรงบาแกตต์ 12 เม็ด หรือรุ่นตัวเลขเคลือบเงาสีดำ และคาลิเบอร์ 12.2 ซึ่งส่งพลังให้กับ J12 BLEU Caliber 12.2 33 MM ทั้งรุ่นที่ขีดเครื่องหมายบอกเวลาเป็นวัสดุแซฟไฟร์ทรงบาแกตต์ 12 เม็ด และรุ่นที่เป็นเพชรน้ำงาม 12 เม็ด สามารถสำรองพลังงานนาน 50 ชั่วโมง และกันน้ำลึกระดับ 200 เมตร ทำให้ J12 BLEU ทั้งสี่รุ่นนี้ตอบโจทย์แม้ตารางชีวิตที่อัดแน่นที่สุด ทั้งธุรกิจ หน้าที่การงาน และไลฟ์สไตล์ 

เพิ่มดีกรีทางเทคนิคด้วยกลไกที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น J12 BLEU Diamond Tourbillon ถือได้ว่าสามารถบ่งบอกตัวตนของผู้ที่สวมใส่ได้ชัดเจน และเป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นเลิศของ CHANEL ในศาสตร์เรือนเวลาชั้นสูง ตัวเรือนขนาด 38 มม. และหน้าปัดโอเพนเวิร์กอวดการทำงานของกลไกคาลิเบอร์ 5 ขึ้นลานด้วยมือ พร้อมฟลายอิ้งทูร์บิญงประดับเพชรที่กึ่งกลางกรงทูร์บิญง ขอบตัวเรือนประดับแซฟไฟร์ทรงบาแกตต์ 34 เม็ด ไฮไลต์ของ J12 BLEU Diamond Tourbillon ยังอยู่ที่เนื้อเซรามิกบริเวณด้านข้างของตัวเรือนและสายนาฬิกา ผ่านการขัดแต่งด้วยมือ ซึ่งใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมง ความพิเศษที่มีให้สัมผัสเพียง 55 เรือนทั่วโลกเท่านั้น 

หน้าปัดโอเพนเวิร์กของ J12 BLEU Diamond Tourbillon อวดการทำงานของกลไกคาลิเบอร์ 5 ขึ้นลานด้วยมือ พร้อมฟลายอิ้งทูร์บิญงประดับเพชร มองเห็นข้อความ ‘LIMITED TO 55’ ลิมิเต็ดอิดิชั่น เพียง 55 เรือน ผ่านฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์ 

พาเลตต์ภายใต้ J12 BLEU ยังรวมไปถึงสีน้ำเงินแบบโปร่งใส ที่ทำให้นึกถึงน้ำทะเลและท้องฟ้าในวันที่อากาศปลอดโปร่ง CHANEL J12 BLEU X-RAY ลิมิเต็ดอิดิชั่นเพียง 12 เรือนทั่วโลก ตอกย้ำความมุ่งมั่นในด้านวัสดุศาสตร์ของเมซงอีกครั้ง ด้วยตัวเรือนและสายนาฬิกาที่อาศัยเวลากว่า 1,600 ชั่วโมงเพื่อสลักออกมาจากเนื้อแซฟไฟร์สังเคราะห์ก้อนใหญ่เพียงก้อนเดียว กลไกขึ้นลานด้วยมือ คาลิเบอร์ 3.1 โชว์ความพิเศษของแท่นเครื่องและสะพานจักร ซึ่งเมซงเลือกใช้แซฟไฟร์ใส เพื่อให้การทำงานของชิ้นส่วนเฟืองจักรดูล้ำหน้าราวกับลอยอยู่กลางอากาศ 

พาเลตต์สีน้ำเงินแบบโปร่งใสของ J12 BLEU X-RAY ที่ชวนให้นึกถึงน้ำทะเลและท้องฟ้าในวันที่อากาศปลอดโปร่ง ซึ่งเมซงทุ่มเวลากว่า 1,600 ชั่วโมงสกัดแซฟไฟร์ให้เป็นสายนาฬิกาและตัวเรือน 

นอกจากรุ่นที่หยิบยกมากล่าวถึงก่อนหน้านี้แล้ว J12 BLEU ยังมี J12 BLEU 38 MM SAPPHIRES ที่จับคู่สีน้ำเงินสดใสของแซฟไฟร์ 58 เม็ดกับเฉดสีน้ำเงินเข้มของเนื้อเซรามิกได้อย่างลงตัว เช่นเดียวกับ J12 BLEU 42 MM SAPPHIRES และ J12 BLEU 28 MM SAPPHIRES คู่ ‘Mini & Maxi’ ที่เมซงนำเสนอสองขั้วความแตกต่าง ตั้งแต่ขนาดตัวเรือน 42 มม. ประดับแซฟไฟร์เจียระไนทรงบาแกตต์ 170 เม็ด ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ และ 28 มม. ประดับแซฟไฟร์เจียระไนทรงบาแกตต์ 196 เม็ด และทำงานด้วยระบบควอตซ์ที่ให้ความเที่ยงตรงสูง 

ไอคอนใหม่แห่งเรือนเวลาชั้นสูง 

นาฬิกา CHANEL J12 BLEU ไม่ได้เป็นเพียงการนำเสนอสีสันใหม่ๆ ให้กับนาฬิกาคอลเลกชั่นเดิมที่คุ้นตา แต่นี่คือการก้าวสู่มิติใหม่ของทักษะความเชี่ยวชาญ และพลังสร้างสรรค์ ผ่านพาเลตต์สีน้ำเงิน ที่เต็มไปด้วยความล้ำลึก โดดเด่น และทรงพลัง สะท้อนความมุ่งมั่นทุ่มเท และความเป็นเลิศทั้งในด้านวัสดุ กลไก และดีไซน์ของ CHANEL ไปพร้อมๆ กัน และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทำให้นาฬิกา CHANEL J12 BLEU ก้าวขึ้นเป็นไอคอนใหม่ในแวดวงเรือนเวลาชั้นสูงได้อย่างเต็มภาคภูมิ 

Story by Pimprapa Umsuphan

Photographs Courtesy of CHANEL

- COVER ART -

https://esquire.co.th/2025/05/15/what-is-your-next-big-thing-interview/

Most Popular

More to See