Esquire Travel กลับมาอีกครั้งหลังจากที่คราวก่อนทางเราพาไปยกระดับการพักผ่อนไปอีกที่กรุงโซล วันนี้กลับมาอีกครั้งกับประเทศที่ช่วงนี้ๆ หลายคนกำลังมีแพลนไปเที่ยวกันกับสิงคโปร์ ถึงแม้ประเทศจะมีขนาดเล็กแต่กลับเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างอยากมาเยือนกันสักครั้ง ด้วยเสน่ห์ของเมืองที่ทันสมัย ผสมผสานกับวัฒนธรรมหลากหลายอย่างลงตัว ความสะอาดเป็นนระเบียบ ความปลอดภัยสูง และความสะดวกสบายในการเดินทาง ที่นี่จึงเหมาะทั้งสำหรับนักเดินทางสายกิน สายช้อป หรือแม้แต่สายธรรมชาติ

ขั้นแรกของการพักผ่อนคือการหาโรงแรมที่มีโลเคชั่นสะดวก ง่ายต่อการเดินทาง และไม่พลุกพล่านกันจนเกิดไป พร้อมมีพื้นที่ให้แฮงเอาค์ตามสไตล์หนุ่มๆ เอสไควร์ และที่สำคัญบรรยากาศและห้องพักนั้นต้องสบายพร้อมด้วยฟาซิลิตี้แบบครบครันเท่านั้น! หลังจากเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยเราได้เลือกเข้าพักที่โรงแรมที่มีการผสมผสานอย่างกลมกลืนระหว่างมรดกทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าและความหรูหราทันสมัย ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณสี่แยกถนนแสตมฟอร์ดและถนนนอร์ธบริดจ์ ที่ในอดีตเคยมีโรงภาพยนตร์ชื่อดังที่ดึงดูดผู้คนด้วยป้ายโฆษณาหนังขนาดยักษ์ พาผู้ชมเข้าสู่โลกที่น่าอัศจรรย์ในแบบที่ไม่เคยจินตนาการมาก่อน ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้รับการแปรเปลี่ยนใหม่โดยแบรนด์โรงแรมหรูสัญชาติยุโรปที่พร้อมมอบประสบการณ์เหนือระดับแบบเดียวกันกับ
โรงแรม The Capitol Kempinski Singapore พร้อมนำเสนอบริการระดับลักซ์สไตล์ยุโรป และประสบการณ์ด้านอาหารที่หลากหลาย โรงแรมแห่งนี้มีห้องพักทั้งหมด 155 ห้อง และเป็นผลลัพธ์จากการบูรณะและปรับปรุงอย่างพิถีพิถันโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลก Richard Meier









ภายในโรงแรมให้ความรู้สึกโคซี่เป็นกันเองถูกตกแต่งด้วยเส้นสายที่คมชัดและรูปทรงเรขาคณิต สร้างความต่อเนื่องทางสายตาให้กับดีไซน์โดยรวม องค์ประกอบเหล่านี้ถูกจัดวางให้ตัดกับโทนสีอบอุ่นอย่างกลมกลืน และในด้านสถาปัตยกรรมนั้นต้องบอกเลยว่าตัวอาคารโรงแรมผสมผสานความงามคลาสสิกของอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกอย่าง Capitol Building ปี 1930 และอาคารสไตล์เรอเนซองส์แบบเวนิส Stamford House ปี 1904 ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และที่สำคัญเดินทางอย่างสะดวกสบายเพราะใต้ดินที่เชื่อมตรงสู่สถานี City Hall MRT จึงไปสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ได้อย่างง่ายด่ายอย่าง สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสิงคโปร์อย่าง แม่น้ำสิงคโปร์, อ่าว Marina Bay, สวน Merlion, สนาม Padang, ถนนแข่งรถ F1 Singapore Grand Prix, และ พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ National Gallery Singapore ก็อยู่ใกล้เพียงไม่กี่ก้าว

ห้องพักนั้นยังได้รับแรงบันดาลใจจาก เมอร์ไลออน สัญลักษณ์ประจำชาติของสิงคโปร์ เพื่อสื่อถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่นของบ้านหลังใหม่ และภายในห้องนั้นมีขนาดกว้างขวาง พร้อมห้องน้ำหรูที่มีอ่างอาบน้ำลอยตัวขนาดใหญ่ และพื้นที่ทำงานกว้างขวาง ภายในห้องยังมี ระบบเสียง Sonos, เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในมินิบาร์ฟรี, อินเทอร์เน็ต WiFi ฟรี และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้การเข้าพักเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมได้ รวมถึงอาหารเช้ากูร์เมต์ฟรีทุกวัน



ถัดมาพบกับสถานที่น่าสนใจและชวนให้ทุกคนไปเยือนกัน เพราะเราคัดมาแล้วกับสถานที่สุดฮิต เหมาะกับการพักผ่อนและพาใครสักคนไปเดตพร้อมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสุดโรแมนติก เริ่มกันที่ National Gallery Singapore ซึ่งห่างจากที่พักของเราไม่มาก เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางย่าน Civic District ของสิงคโปร์ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2015 โดยตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่สองหลังที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ City Hall และ Supreme Court ซึ่งได้รับการบูรณะและปรับปรุงให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่งดงาม มีพื้นที่จัดแสดงรวมกว่า 64,000 ตารางเมตร ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้รวบรวมผลงานศิลปะมากกว่า 9,000 ชิ้น โดยเน้นศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยจากสิงคโปร์และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงผลงานของศิลปินชื่อดังระดับโลกเช่น Georgette Chen, Raden Saleh, Yayoi Kusama และ Mark Rothko นอกจากนี้ยังมีศูนย์การเรียนรู้ศิลปะสำหรับเด็กและครอบครัวในชื่อ Keppel Centre for Art Education ที่จัดกิจกรรมและโปรแกรมการศึกษาด้านศิลปะอย่างหลากหลาย






หรือหากใครเป็นสายของหวานละก็ไม่ควนพลาดคาเฟ่เปิดใหม่อย่าง Prada Cafe ที่ตั้งอยู่บนถนน Orchard ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของร้าน Prada สาขา ION Orchard เป็นร้านกาแฟสไตล์หรูหราแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตกแต่งภายในด้วยสีเขียวมิ้นต์และพื้นกระเบื้องลายตารางขาวดำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Prada เมนูของร้านมีทั้งอาหารคาวและหวาน เช่น Crostone, Monoportions, และเครื่องดื่มค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอิตาลี ให้ทุกคนได้ลิ้มลองกัน




หรือใครเบื่อบรรยากาศบาร์ริม Marina Bay วันนี้เราขอพาไป ATLAS Bar ตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของอาคาร Parkview Square บนถนน North Bridge Road ในย่าน Downtown Core ของสิงคโปร์เป็นบาร์หรูหราที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ Art Deco ของยุค 1920s ตกแต่งด้วยเพดานสูงสามชั้นและบาร์ขนาดใหญ่ที่มีหอเก็บจินสูง 8 เมตร ซึ่งมีจินมากกว่า 1,300 ชนิดจากทั่วโลก บาร์นี้ได้รับรางวัล “Bareksten Best Bar Design Award” จาก Asia’s 50 Best Bars 2024 และเมนูค็อกเทลของ ATLAS Bar ได้รับการดูแลโดยหัวหน้าบาร์เทนเดอร์ Lidiyanah ‘Yana’ K ซึ่งนำเสนอค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคนิคการทำเครื่องดื่ม เช่น การควบคุมอุณหภูมิ การคาร์บอเนต การฟักไขมัน และการแช่ เมนูล่าสุด “Preservation of Fire” นำเสนอเครื่องดื่มที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์การทำค็อกเทล พร้อมอาหารรสเลิศให้ และบรรยากาศสุดโรแมนติก



และถัดมากับสถานที่เอาใจคนชอบถ่ายรูปอย่าง Marina One กับสถาปัตยกรรมสุดอาร์ตตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ Marina Bay เป็นโครงการพัฒนาแบบผสมผสานที่มีทั้งที่พักอาศัย สำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีก โดยมีจุดเด่นที่ “Green Heart” สวนแนวดิ่งขนาดใหญ่ที่มีความเขียวขจีและความยั่งยืนเป็นหัวใจหลักของโครงการ
Green Heart เป็นสวนแนวดิ่งที่มีความเขียวขจีและความยั่งยืนเป็นหัวใจหลักของโครงการ สวนนี้มีความสูงสามชั้นและมีน้ำตกขนาดใหญ่ที่ช่วยลดอุณหภูมิในพื้นที่โดยรอบ ภายในสวนมีต้นไม้และพืชพันธุ์มากกว่า 350 ชนิด และมีทางเดินไม้ยาวประมาณ 2 กิโลเมตรที่เชื่อมโยงพื้นที่ต่างๆ ภายในโครงการ Marina One เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในสวนสวยใจกลางเมือง การเดินชมสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย และการเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในย่าน Marina Bay ได้อย่างสะดวกสบาย




ปิดท้ายไปด้วยสตรีทอาร์ตอย่าง Haji Lane ตั้งอยู่ในย่าน Kampong Glam ของสิงคโปร์ เป็นถนนแคบที่สุดในประเทศที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวา เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ แฟชั่น และวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก
ถนนฮาจิเดิมเป็นที่พักของผู้แสวงบุญชาวมุสลิมในศตวรรษที่ 19 ก่อนที่จะกลายเป็นย่านที่อยู่อาศัยของครอบครัวมลายูในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970 ปัจจุบัน ถนนแห่งนี้เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์รวมของร้านบูติกอิสระ คาเฟ่เก๋ๆ และบาร์ที่มีเอกลักษณ์นอกจากนี้ยังมีงานศิลปะบนผนังที่สร้างความโดดเด่นและเป็นที่นิยมสำหรับการถ่ายภาพ





กิจกรรมที่น่าสนใจบนถนนฮาจิ
- ช้อปปิ้งร้านบูติก
- คาเฟ่และร้านอาหาร
- งานศิลปะและกราฟฟิตี้
- บาร์และสถานบันเทิงยามค่ำคืน
การเที่ยวสิงคโปร์ในครั้งนี้เต็มไปด้วยความหลากหลายและครบครัน ทั้งศิลปะ วัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ และความหรูหรา ไม่ว่าจะเริ่มต้นด้วยการซึมซับแรงบันดาลใจที่หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ (National Gallery Singapore) ต่อด้วยการแวะจิบกาแฟหรูในบรรยากาศแฟชั่นนิสต้าที่ Prada Caffè แล้วเปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสความอลังการและรสนิยมระดับโลกที่ ATLAS Bar จากนั้นเดินเล่นพักผ่อนกลางเมืองที่ Marina One ในสวนแนวดิ่ง “Green Heart” ก่อนจะปิดท้ายด้วยการช้อป ถ่ายรูป และดื่มด่ำกลิ่นอายฮิป ๆ ที่ Haji Lane ย่านสุดชิคที่ผสมผสานศิลปะและวัฒนธรรมได้อย่างมีเสน่ห์ ทริปนี้จึงเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ทั้งตาได้เห็น ใจได้รู้สึก และกล้องได้เก็บทุกความประทับใจกลับมาอย่างเต็มอิ่ม
Photographer : Ratchawat Eksuwanwattana & Courtesy of Brand