
MINI ประเทศไทย สร้างความเร้าใจในโลกแห่งยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ชวนเอสไควร์สัมผัสประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุดกับตระกูล John Cooper Works นำโดย MINI John Cooper Works Electric ตัวท็อปเปี่ยมพลัง พร้อมด้วย MINI John Cooper Works Aceman ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ โดยเอสไควร์ได้ร่วมทดสอบสมรรถนะที่หลากหลายและเร้าใจในแบบฉบับ MINI ทั้งการขับขี่แบบ fast lap ที่เร่งการเต้นของหัวใจ และการขับขี่แบบยิมคาน่า
MINI John Cooper Works Electric ถือเป็นตัวแรงพลังไฟฟ้าล้วนรุ่นแรก มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วนที่ให้กำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้า และแรงบิด 350 นิวตันเมตรที่เรียกใช้งานได้ทันที แบบไม่มีหน่วง นอกจากจะตอบสนองการส่งกำลังได้อย่างรวดเร็วในแบบรถ BEV แล้ว JCW ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังเติมความแรงได้อีกขณะออกตัวด้วยฟังก์ชั่น Electric Boost ที่เสริมพลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 20 กิโลวัตต์ เป็นระยะสั้นๆ ขณะเร่งความเร็ว ส่วนช่วงล่างก็ผ่านการปรับจูนมาในสไตล์ John Cooper Works เต็มตัว ให้ความรู้สึก ‘Go-Kart feeling’ ที่เป็นเอกลักษณ์ของมินิในแบบพลังสูง คล่องตัวกับทุกโค้งในแบบที่แฟนๆ มินิชื่นชอบ








การตกแต่งและอุปกรณ์พิเศษเฉพาะรุ่นรอบคัน ทำให้ MINI John Cooper Works Electric เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างประวัติศาสตร์จากโลกมอเตอร์สปอร์ตและอนาคตของวงการยานยนต์ JCW รุ่นใหม่นี้ สวยเฉี่ยวด้วยโลโก้ JCW สีแดง-ขาว-ดำ ที่ได้แรงบันดาลใจจากธงตาหมากรุก และสปอยเลอร์ท้ายที่สวยเด่นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านอากาศพลศาสตร์ และด้านระยะทางการขับขี่ที่สูงถึง 371 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
ภายในห้องโดยสาร ยังเต็มไปด้วยโทนสีแดงและดำอันเป็นเอกลักษณ์ของจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ทั้งพวงมาลัยสปอร์ต JCW สีดำที่ประดับด้วยตะเข็บสีแดงและหุ้มผ้าที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเพื่อให้จับถนัดมือ เบาะสปอร์ต JCW ให้การรองรับที่มั่นคงระหว่างการขับขี่แบบสุดตัว ตกแต่งด้วยตะเข็บสีแดงตัดกับหนังเทียมสีดำเช่นเดียวกับผิวหน้าของคอนโซล นอกจากนี้ ระบบ MINI Experience Modes ในรุ่นนี้ ยังมีโหมด Go-Kart ที่เพิ่มเข้ามาสำหรับรถยนต์ ตระกูล JCW โดยเฉพาะเพื่อเติมกลิ่นอายของมอเตอร์สปอร์ตให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยโหมดนี้จะตั้งค่าพวงมาลัยให้ไวมากขึ้น คันเร่งตอบสนองเร็วขึ้น และแสดงข้อมูลเพิ่มเติมบนหน้าจอ OLED ทรงกลมด้านหน้า ทั้งแรงบิด กำลังเครื่องยนต์ และแรง G แบบเรียลไทม์






MINI John Cooper Works Electric รุ่นแรกนี้ มีให้เลือกเป็นเจ้าของในสีเทา Legend Grey, แดง Chili Red II, ขาว Nanuq White, ดำ Midnight Black II และน้ำเงิน Blazing Blue
สำหรับ MINI John Cooper Works Aceman น้องใหม่ล่าสุดของครอบครัวมินิในโฉม 5 ประตู พร้อมสมรรถนะเต็มพิกัดด้วยขุมพลังไฟฟ้าตัวแรง รับมือทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ในเมือง
MINI John Cooper Works Aceman ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พละกำลัง 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้า เช่นเดียวกับ MINI John Cooper Works Electric รุ่น 3 ประตู แต่มาพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่าและตัวถังที่ยกสูงจากพื้นมากขึ้น โดยยังคงความแรงไว้อย่างเต็มเปี่ยมด้วยความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 6.4 วินาที แบตเตอรี่แรงดันสูงขนาด 54.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ช่วยให้ MINI John Cooper Works Aceman วิ่งได้ไกลถึง 355 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ในเวลาเพียง 31 นาทีด้วยระบบชาร์จไฟกระแสตรง 95 กิโลวัตต์ หรือ 5 ชั่วโมง 30 นาทีด้วยระบบชาร์จไฟกระแสสลับ 11 กิโลวัตต์






นอกจากดีไซน์เฉพาะตัวแบบจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ อย่างลายคาดสปอร์ตสีแดง-ดำ พร้อมหลังคาและฝาครอบกระจกมองข้างที่ใช้โทนสีเดียวกันแล้ว JCW Aceman ใหม่ ยังโดดเด่นด้วยล้ออัลลอย John Cooper Works ขนาด 19 นิ้ว แบบ Strive Spoke ทูโทน ส่วนห้องโดยสารที่กว้างขวาง ยิ่งดูโปร่งโล่งมากขึ้นด้วยหลังคากระจกพาโนรามา ภายในห้องโดยสารยังคงเอกลักษณ์ของรถตระกูล John Cooper Works ไว้ครบถ้วน ทั้งพวงมาลัย JCW แบบเฉพาะรุ่นและเบาะนั่งสปอร์ต จอแสดงผล OLED ทรงกลม ส่วนฟังก์ชัน MINI Experience Modes ก็รองรับโหมด Go-Kart ที่มีให้สัมผัสกันตามสไตล์รุ่น JCW เช่นกัน
รถยนต์มินิเจเนอเรชั่นใหม่ทุกรุ่น รองรับระบบ Digital Key Plus ช่วยให้ใช้สมาร์ทโฟนเป็นกุญแจรถแบบดิจิทัลได้อย่างสะดวก สามารถล็อกและปลดล็อกรถได้โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า นอกจากนี้ ทั้ง MINI John Cooper Works Aceman และ John Cooper Works Electric ยังมาพร้อมฟังก์ชัน Remote Parking ที่ช่วยควบคุมการจอดและนำรถออกจากที่จอดผ่านสมาร์ทโฟนได้
MINI John Cooper Works Aceman ใหม่ พร้อมให้เลือกเป็นเจ้าของในสีเทา Legend Grey, แดง Chili Red II, ขาว Nanuq White และดำ Midnight Black II









