back to top
HomeInterviewUnleashing My Best Self...

Unleashing My Best Self • การเปลี่ยนแปลงสู่ตัวตนที่ดีที่สุดของ URBOYTJ

Interview : BOPITR VISETNOI
Photographer : PONPISUT PEJAROEN
Fashion Editor : DOME SONGPRAKON
Story : BOONAKE A.

ในบ่ายวันหนึ่ง ภายในห้องพักอันหรูหราของโรงแรม Waldorf Astoria ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ท่ามกลางความเงียบสงบ บรรยากาศที่แสนผ่อนคลาย ภายใต้แสงแดดอ่อนที่ผ่านเข้ามาจากหน้าต่างบานใหญ่ ดูเป็นมวลอารมณ์ที่แสนขัดแย้งกับสภาวการณ์ภายในห้องที่เต็มไปด้วยทีมงานถ่ายภาพแฟชั่นเซ็ต ในคอลัมน์สัมภาษณ์หลักประจำฉบับ ภาพของช่างภาพกำลังบล็อกมุมถ่ายภาพ ภาพของประกายไฟวาบวับของหลอดไฟ และภาพการจัดแจงมุมถ่ายภาพภายในห้อง Fashion Editor อย่างแท้จริง

ณ มุมหนึ่งของห้อง เราสังเกตว่า URBOYTJ หรือ จิรายุทธ ผโลประการ กำลังนั่งเอนหลังพิงกับเก้าอี้ตัวใหญ่เพื่อรอการสัมภาษณ์อย่างผ่อนคลาย พลางจิบน้ำเปล่าในแก้ว Tumblr ส่วนตัวที่นำมาเอง ขณะที่ผมสังเกตเห็นดวงตาใต้แว่นตาทรงกลมสีดำสนิทของเขา มันเป็นสายตาที่สงบนิ่ง แตกต่างจากภาพลักษณ์อันแสนขบถของเขา

ด้วยท่าทีสงบนิ่งที่ URBOYTJ ได้แสดงออกมา มันก็ดูจะสอดคล้องกับประเด็นที่เอสไควร์เลือกมาพูดคุยกับเขา นั่นคือ การลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างเบสท์เวอร์ชั่นของตัวเองให้กับตัวเอง นั่นคือการออกกำลังกายอย่างจริงจัง จนสามารถพัฒนาสานต่อไปยังแนวคิด Self-Love ที่มีคุณค่า

“ทุกครั้งที่ออกกำลังกาย มันเหมือนกับการฝึกฝนความรักตัวเอง” เขาเริ่มต้นพูดกับเราด้วยรอยยิ้ม เหมือนเป็นการเปิดบทสนทนาให้เข้าใจตรงกันว่าวันนี้เราจะคุยเรื่องอะไรกัน จากจุดเริ่มต้นนั้น นำไปสู่คำถามอีกมากมาย และอีกหลากหลายคำตอบที่สะท้อนตัวตนความเป็น URBOYTJ ได้อย่างชัดเจน

Echoes of Self-Love

ความรักมักเป็นศูนย์กลางของงานเขียนเพลงของ URBOYTJ และมักมาพร้อมกับมุมมองของ ‘loser’ ผู้ที่ผิดหวังในความรัก “ผมเป็นตัวแทนของคนที่เห็นคนอื่นสมหวังแล้วถามตัวเองว่า เมื่อไหร่จะถึงทีเราบ้าง” เขาหัวเราะเบาๆ พลางนึกย้อนถึงเพลงที่เคยแต่ง การเขียนเพลงสำหรับเขาไม่ใช่เพียงการสร้างความบันเทิง แต่มันคือการบันทึกช่วงเวลา เป็นไดอารี่ที่บอกเล่าความรู้สึก ณ ขณะนั้น

“เวลาฟังเพลงเก่า ๆ ของตัวเอง มันเหมือนนั่งดูหนังย้อนเวลา เราจะจำได้ว่าตอนนั้นรู้สึกยังไง เพลงแต่ละเพลงสะท้อนช่วงชีวิตที่ต่างกันออกไป” เขากล่าวถึงเพลง ‘เค้าก่อน’ ที่ปล่อยออกมาในปี 2016 และเปรียบเทียบกับเพลงล่าสุดอย่าง ‘ไม่ติด’ ที่สะท้อนแนวคิดเรื่อง Self-Love อย่างชัดเจน “เพลงนี้คือการบอกว่า เราสามารถรักใครได้ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของเขา”

From Struggles to Strength

เขาเล่าถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากในอาชีพว่า “ผมเริ่มรู้สึกว่าการเล่นคอนเสิร์ตหนึ่งชั่วโมงมันยาวนานมาก ทำไมไม่จบสักที” เขากล่าวถึงช่วงเวลาที่รู้สึกว่าไม่สามารถสู้ต่อไปได้ ร่างกายที่เหนื่อยล้า และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้ความมั่นใจของเขาสั่นคลอน

“มันมีช่วงที่ผมหาเสื้อผ้าใส่ยากขึ้นด้วย” การต่อสู้กับร่างกายและสภาพจิตใจในเวลานั้นทำให้เขารู้สึกท้อแท้ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง การดูแลตัวเองและการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดทำให้เขาค้นพบสิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจจาก Pharrell Williams ศิลปินที่เขาชื่นชมอย่างมาก

“เขาอายุ 51 แล้ว แต่ยังดูเหมือนเด็กวัย 20 ต้น ๆ” URBOYTJ กล่าวด้วยแววตาชื่นชมและเคารพในตัวศิลปินที่สามารถรักษาความสดชื่นและความกระปรี้กระเปร่าของตัวเองได้เป็นอย่างดี “เขาสอนผมเรื่องการรักตัวเอง และการดูแลตัวเองอย่างแท้จริง” การหันมาใส่ใจในตัวเองทำให้เขาเริ่มรู้สึกดีขึ้นและมั่นใจมากขึ้น

เมื่อเขาเริ่มดูแลตัวเองมากขึ้น คนรอบข้างก็เริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง และบางคนก็บอกว่า “พี่เป็นแรงบันดาลใจให้หนูลดน้ำหนัก” คำชมเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกดีใจมากและภูมิใจในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง “โคตรดีใจเลยนะ” เขาพูดด้วยความภาคภูมิใจในสิ่งที่เขาสามารถทำได้ ไม่เพียงแต่เพื่อความสุขของตัวเอง แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ด้วย

Best Version of Me

URBOYTJ เล่าถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตเมื่อเขาตระหนักว่าต้องเริ่มดูแลตัวเองมากขึ้น “ผมอยากเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวเอง ไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่าง แต่รวมถึงจิตใจด้วย” จุดนี้ทำให้เขาตัดสินใจที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และเริ่มต้นออกกำลังกายอย่างจริงจัง ทั้งคาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง และโยคะ เพื่อเสริมสร้างทั้งร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงขึ้น และพร้อมเผชิญกับความท้าทายในชีวิตได้ดียิ่งขึ้น

“ตอนแรกมันโคตรยาก ผมไม่ชอบออกกำลังกายเลย” เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมา แต่การเริ่มต้นแม้จะยากลำบากก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชีวิตของเขา เมื่อเห็นผลลัพธ์และสุขภาพที่ดีขึ้น เขากลับรู้สึกว่ามันคุ้มค่ามาก “พอเห็นผลลัพธ์ รู้สึกว่าสุขภาพดีขึ้น มันเหมือนเป็นการเอาชนะตัวเองในแต่ละวัน” เขากล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจในความสำเร็จของตัวเอง แม้จะเป็นแค่การเริ่มต้นจากก้าวเล็ก ๆ แต่การที่เขาสามารถเอาชนะความยากลำบากและสร้างนิสัยใหม่ในการดูแลตัวเองได้นั้น ก็ถือเป็นการประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

Redefining Self-Love

“สำหรับผม ไม่ใช่แค่การยอมรับตัวเองในแบบที่เป็น แต่คือการทำให้ตัวเองดีขึ้นด้วย” เขากล่าวหนักแน่น “เราต้องแคร์ตัวเองให้มากพอที่จะผลักดันตัวเองไปข้างหน้า” นี่คือแนวคิดเกี่ยวกับ Self-Love ในมุมมองของ URBOYTJ ที่มองว่าการดูแลตัวเองไม่ใช่แค่การยอมรับในสิ่งที่เป็นอยู่ แต่ยังหมายถึงการผลักดันตัวเองให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ

URBOYTJ กล่าวถึงช่วงเวลาที่เขาเคยแคร์สายตาคนอื่นมาก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่า “คุณจะมองผมยังไงก็ได้ มันเป็นสิทธิของคุณ” เขาหัวเราะเบา ๆ และเสริมว่า “ผมไม่สามารถโน้มน้าวให้ใครเชื่อตามผมได้ แต่ถ้าสิ่งที่ผมทำเป็นเรื่องดี และคุณอยากเอาไปปรับใช้ ผมก็ยินดี”

เขานั่งเอนหลัง จิบน้ำอีกอึก ก่อนจะกล่าวปิดท้ายว่า “บางครั้งเราต้องเห็นแก่ตัวขึ้น ต้องกล้าพูดในสิ่งที่ต้องการ และกล้าปฏิเสธบางอย่าง” สายตาของเขาทอดไปไกล ก่อนจะพูดว่า “เพราะสุดท้ายแล้ว การรักตัวเองคือสิ่งสำคัญที่สุด”

ต้องยอมรับกันอย่างตรงไปตรงมาว่าผมเองเอาเข้าจริงก็รู้จักแค่ภาพลักษณ์ภายนอกของเขาแบบผิวเผิน ในเรื่องอื่นเท่าที่รู้มาก็เป็นเรื่องดีบ้าง ร้ายบ้างตามที่ปรากฏในหน้าข่าวเท่านั้น การได้มาคุยกับเขาในระยะประชิด ที่มีโต๊ะกั้นระหว่างเราเพียงหนึ่งตัว ได้ทำให้ผมรู้จักเขาในมิติต่าง ๆ ได้มากขึ้น บางคำตอบยอมรับว่าชัดเจนและกินใจอย่างมากทีเดียว

ทีนี้มาถึงคำถามสุดท้ายที่ผมจะถามเขาแล้ว เมื่อถูกถามถึงคำว่า ผู้ชายสุภาพบุรุษ เขาส่ายหน้าช้า ๆ ก่อนจะตอบว่า “ผมไม่ค่อยใช้คำนี้แล้ว เพราะตอนนี้เรื่องเพศมันหลากหลายมากขึ้น” แต่สิ่งที่เขายึดถือและมองว่าเป็นคุณลักษณะของสุภาพบุรุษคือ การเปิดใจ รับฟัง และไม่ตัดสินใคร โดยไม่จำกัดตัวเองอยู่ในกรอบของคำจำกัดความที่สังคมตั้งไว้ URBOYTJ ทิ้งท้ายไว้อย่างลึกซึ้ง ก่อนที่บทสนทนาจะจบลง พร้อมกับความยินดีที่เกิดขึ้นในตัวผมที่ได้รู้จักเขาในมุมนี้อย่างลึกซึ้ง

Makeup : Chaidit Somsong
Hair : Chatchajhak Nameepol
Photo Assistant : Niphon Supla
ขอบคุณสถานที่ โรงแรม Waldolf Astoria

- COVER ART -

Most Popular

More to See