หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวกันมาไม่นานนี้ คราวนี้มาถึงประเทศไทยกันเป็นที่เรียบร้อยกับ iPad Air รุ่นใหม่ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นแบบจัดเต็มแบบไม่กั๊ก วันนี้เอสไควร์พามาเปิดกล่องกัน!
หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า iPad รุ่นนี้นั้นมาพร้อมชิป M3 ใหม่นั้นมาพร้อมกับมอบประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นแรงขึ้น และพร้อมรองรับ Apple Intelligence อย่างเต็มรูปแบบ เช่นการดราฟรูุปเล่นๆ แล้วให้ AI Generate ออกมา หรือจะใส่แค่คำต่างๆ AI ก็สามารถสร้างสรรค์รูปภาพออกมาได้อย่างสวยงาม
โดยชิป M3 นี้เร็วกว่า iPad Air รุ่นชิป M1 เกือบ 2 เท่าเลยนะ และยังเร็วกว่ารุ่นชิป A14 Bionic ถึง 3.5 เท่า ช่วยให้ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์คอนเทนต์หรือเล่นเกมกราฟิกหนักๆ ได้อย่างชิว! สายเกมห้ามพลาด หลังจากที่ได้ลองใช้บอกเลยว่ารู้สึกว่า เร็ว แรง แสงและเงาต่างๆ ของกราฟิกต่างๆ ชัดเจนแถมยังมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงแบบสุดๆ
มาใน 4 สีสวยงาม และมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ รุ่น 11 นิ้ว พกพาสะดวก และรุ่น 13 นิ้ว ที่ให้พื้นที่ในการทำงานและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นภายในกล่องประกอบไปด้วยสายชาร์จ และอะแดปเตอร์ USB-C
บอกเลยว่า Apple Intelligence อย่างเครื่องมือ “ลบออก” นั้นใช้งานได้ง่ายนิดเดียวเพียงแค่ปลายนิ้ว ให้ทุกคนสนุกกับการแต่งรูปมากขึ้น รวมไปถึงไม้เสกภาพในแอปโน้ตช่วยให้ผู้ใช้ตกแต่งโน้ตด้วยภาพได้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้นโดยการเปลี่ยนภาพสเก็ตช์คร่าวๆ เป็นภาพใหม่ได้ เพียงแค่วาดวงกลมล้อมรอบภาพสเก็ตช์ด้วย Apple Pencil หรือวาดวงกลมรอบพื้นที่ว่างๆ ภายในโน้ตนั่นเอง
และยิ่งไปกว่านั้นพร้อมกันนี้ยังมี Magic Keyboard รุ่นใหม่ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความอเนกประสงค์ให้ iPad Air ใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งและยังมาพร้อม แทร็คแพดขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการทำงานที่ต้องการความแม่นยำสูง พร้อมแถวปุ่มฟังก์ชัน 14 ปุ่มใหม่ ที่ช่วยให้เข้าถึงการตั้งค่าต่างๆ อย่างเช่นการปรับความสว่างหน้าจอหรือควบคุมระดับเสียงได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นนอกจากนี้ Magic Keyboard ยัง เชื่อมต่อกับ iPad Air ได้อย่างแนบสนิทด้วยระบบแม่เหล็ก หลังจากได้ลองใช้แล้วลืมไปเลยว่านี่คือไอแพด เพราะสะดวกมาก
พร้อม Smart Connector ที่ช่วยถ่ายโอนพลังงานและข้อมูลได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่ง Bluetooth ในขณะเดียวกัน บานพับอะลูมิเนียมที่ผ่านการตัดแต่งด้วยเครื่องจักรอย่างประณีต ยังมาพร้อม พอร์ต USB-C สำหรับการชาร์จ เพิ่มความคล่องตัวและความสะดวกสบายในการใช้งานในทุกสถานการณ์ขึ้น รองรับ Apple Pencil Pro และ Apple Pencil (USB-C) และมาพร้อม iPadOS 18 ที่เสริมศักยภาพด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะต่างๆ
มาพร้อม ชิป A16 อันทรงพลัง และ พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพื่อมอบความคุ้มค่าสูงสุดให้กับผู้ใช้งาน โดย ชิป A16 ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานอย่างก้าวกระโดด รองรับทั้งการทำงานที่ซับซ้อนและการใช้งานทั่วไปในระบบปฏิบัติการ iPadOS ได้อย่างราบรื่น ขณะเดียวกันยังคง แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวัน เพื่อรองรับทุกกิจกรรมอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
เรายังได้รวบรวมฟีเจอร์เด่นของ iPadOS 18 มาไว้ให้แล้ว!!
- อันแรกกับ Math Notes ที่พร้อมช่วยทุกคน คำนวณสมการ กำหนดตัวแปร เพียงแค่เขียนหรือพิมพ์ รองรับทั้งในแอป Notes และ Calculator ซึ่งบอกเลยว่าสะดวกมากๆ สำหรับคนที่ไม่ค่อยถนัดตัวเลข
- เครื่องคิดเลขบน iPad มาแล้ว! หลักจากที่ทุกคนเคยบ่นๆ คราวนี้มาการแปลงหน่วย เช่น ความยาว น้ำหนัก สกุลเงิน และอื่นๆ เลยทีเดียว
- ให้การเขียนของขึ้นอ่านได้ง่ายขึ้นไปอีกขั้นกับ Smart Script ที่ช่วยให้ลายมือของดูเป็นธรรมชาติ แก้ไขได้ง่าย
- Customization ปรับแต่ง Home Screen ได้อย่างอิสระ วางไอคอนแอปได้ทุกตำแหน่ง ตกแต่งให้เป็นสไตล์ของตัวเอง
- Freeform กับการจัดเรียงคอนเทนต์ได้อย่างแม่นยำด้วย Snap to Grid และใช้ Magnetic Connection Lines เหมาะสำหรับการสร้างแผนผังและไดอะแกรม
- เอาใจสายเกมเมอร์ด้วย Game Mode เล่นเกมได้ลื่นไหลขึ้น ด้วย Game Mode ที่ช่วยลดดีเลย์ของอุปกรณ์ไร้สาย และจำกัดกิจกรรมเบื้องหลังเพื่อคงเฟรมเรตสูงสุด เล่นเกมแบบลื่นปรื๊ดๆ จนนึกว่าเล่นในคอม
โดย iPad Air ใหม่มาในราคาเริ่มต้นในราคาเพียง 21,900 บาท สำหรับรุ่น 11 นิ้ว และ 28,900 บาท สำหรับรุ่น 13 นิ้ว แล้วยังมีโปรสำหรับศึกษาสำหรับ iPad Air รุ่น 11 นิ้ว เริ่มต้นเพียง 20,100 บาท และสำหรับรุ่น 13 นิ้ว เริ่มต้นเพียง 27,100 บาท พบกันได้ที่ Apple ทุกสาขาครับ