BVLGARI แบรนด์เครื่องประดับชั้นสูงจากกรุงโรมผู้เป็นดั่งสัญลักษณ์ด้านศิลปะแห่งการใช้ชีวิตแนวร่วมสมัยสไตล์อิตาเลียนประกาศเปิดตัวบูติกแห่งใหม่ ณ เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์อันหรูหราตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต



เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในร้าน แขกผู้มาเยือนจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการมาเยือนสถานที่อันพิเศษ ความรู้สึกของการมีส่วนร่วม และการเป็นหนึ่งเดียวกับโลกของบุลการี ที่ถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรมและดีไซน์ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกรุงโรมในมุมมองร่วมสมัย ผสานเข้ากับศิลปะแห่งการใช้ชีวิตแบบชาวอิตาเลียนที่สามารถสัมผัสได้ผ่านทุกประสาทสัมผัส


ประสบการณ์อันล้ำค่านี้จะชวนให้ผู้มาเยือนหลงใหล ดำดิ่งสู่ความงดงามและความวิจิตรตระการตาของแบรนด์ จนอยากกลับมาเยือนอีกครั้ง เพราะ บุลการีคือกรุงโรม และกรุงโรมก็คือบุลการี แบรนด์ที่ตีความจิตวิญญาณของกรุงโรมในรูปแบบร่วมสมัยอย่างไม่หยุดนิ่ง ภายใต้แนวคิด “Eternally Reborn – การเกิดใหม่ที่ไม่มีวันสิ้นสุด” ที่สะท้อนถึงความสามารถในการนำอดีตมาตีความใหม่อย่างร่วมสมัย และสร้างประสบการณ์อันสดใหม่อยู่เสมอ


และบริเวณด้านหน้าร้านมีลักษณะกว้างขวาง เชื้อเชิญแขกผู้มาเยือนด้วยทางเข้าที่โค้งและโปร่งใส ประดับด้วยกรอบทองเหลืองอันหรูหรา พร้อมตู้โชว์สวยงามสะดุดตา และโลโก้ BVLGARI อันเป็นเอกลักษณ์ในตัวอักษรโรมันพิมพ์ใหญ่ที่ติดตั้งบนพื้นผิวหินอ่อนอิมพีเรียลกรีน (Imperial green marble) อันโดดเด่น ซึ่งเสริมสร้างบรรยากาศที่สัมผัสได้ถึงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
แภายในร้านได้รับการออกแบบอย่างประณีต โดดเด่นด้วยสไตล์อิตาเลียนร่วมสมัยที่สะท้อนถึงความหรูหราและความงามอันเรียบง่าย หินอ่อนคาลเดีย (Caldia marble) ถูกนำมาใช้ร่วมกับลวดลายเรขาคณิตเพื่อเพิ่มมิติให้กับห้องกลาง ขณะที่ทางเข้าหลักต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยดาวแปดแฉกที่รังสรรค์ขึ้นจากทองเหลือง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งสมดุล ความกลมกลืน และระบบของจักรวาล






ดาวดวงนี้ไม่เพียงเป็นองค์ประกอบทางศิลปะ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงบูติกของบุลการีทั่วโลกเข้าด้วยกัน ตามตำนานที่เล่าขานกันมา “Roma Caput Mundi” หรือ “กรุงโรมคือศูนย์กลางของโลก” ดาวแปดแฉกนี้สะท้อนถึงแนวคิดดังกล่าว โดยมีเส้นทั้งแปดเชื่อมโยงกับสี่ทิศหลัก (เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก) และช่วงเวลาสำคัญของปี (สองวันที่ยาวนานที่สุดและสองวันที่กลางวันและกลางคืนเท่ากัน) ตอกย้ำจิตวิญญาณของบุลการีที่หลอมรวมอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกัน




พื้นที่ภายในร้านได้รับการออกแบบอย่างประณีตให้เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ เพื่อมอบประสบการณ์ที่รื่นรมย์ให้กับลูกค้าในทุกย่างก้าว เปรียบเสมือนการเดินทางในกรุงโรมที่เปี่ยมไปด้วยความงดงามและมุมมองอันน่าค้นหา ทุกพื้นที่ชวนให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ และสัมผัสถึงหัวใจของความประณีตและความสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ของบุลการี
หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการตกแต่งคือ “หินทราเวอร์ไทน์” (Travertine) หินธรรมชาติที่เป็นสัญลักษณ์ของยุคโรมัน ซึ่งมอบความสว่างไสวและสัมผัสอันหรูหราให้กับเสาและผนังภายในร้าน กลายเป็นเฉดสีอันโดดเด่นของแบรนด์ที่สะท้อนถึงความประณีตและสง่างาม ห้องกลางซึ่งเป็นพื้นที่แรกที่ลูกค้าจะได้พบเมื่อก้าวเข้าสู่ร้าน ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน พร้อมเคาน์เตอร์ทรงกลมที่ประดับด้วยหินทราเวอร์ไทน์อย่างงดงาม
การเลือกใช้หินอ่อนและหินทราเวอร์ไทน์สะท้อนถึงมรดกทางศิลปะของอิตาลี ซึ่งศิลปินและสถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตเคยนำมาใช้สร้างสรรค์อนุสาวรีย์ อาคาร และประติมากรรมที่ยังคงยืนหยัดเหนือกาลเวลา เป็นเครื่องยืนยันถึงแนวคิดแห่งความงามที่ไร้กาลเวลา ซึ่งฝังแน่นอยู่ในดีเอ็นเอของบุลการี


บรรยากาศภายในร้านได้รับการออกแบบอย่างกลมกลืน ด้วยการผสมผสานของโทนสี วัสดุ และพื้นผิวหลากหลายรูปแบบ เพิ่มความรู้สึกอบอุ่นด้วยองค์ประกอบที่อ่อนโยน ผนังภายในตกแต่งด้วยลวดลายริ้วและเส้นโค้งอ่อนคล้ายคลื่น ผสานกับผ้าไหมเนื้อหรูที่ประดับด้วยแผ่นทองเหลือง เพิ่มความหรูหราอย่างละเมียดละไม
แสงสีทองอันอบอุ่นที่อบอวลอยู่ภายในร้าน ชวนให้นึกถึงเสน่ห์ของกรุงโรมในยามเย็น แรงบันดาลใจนี้ถ่ายทอดผ่านโทนสีแซฟฟรอนที่ใช้ในการตกแต่งตู้โชว์ ซึ่งสะท้อนถึงแสงอาทิตย์ยามตะวันตกดินของกรุงโรม เมื่อท้องฟ้าเรืองรองด้วยเฉดสีทองอันจับใจ
อีกหนึ่งจุดเด่นคือพื้นที่มุมด้านซ้ายของร้าน ซึ่งปูด้วยพื้นลวดลายเรขาคณิตที่ประกอบด้วยรูปทรงวงกลมและสี่เหลี่ยม โดยใช้หินอ่อนคาลเดียและหินอ่อนสีเขียวมรกตเข้ม ได้แรงบันดาลใจจากวิหารแพนธีออน สะท้อนจิตวิญญาณแห่งศิลปะแบบโรมันอย่างลึกซึ้ง




เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ให้สมบูรณ์แบบ ร้านยังมีบริการเลานจ์หรูหราสำหรับการพักผ่อนและสัมผัสการบริการที่อบอุ่นในแบบฉบับอิตาเลียน ให้ทุกช่วงเวลาภายในร้านเต็มไปด้วยความสุข ความสง่างาม และความทรงจำอันประทับใจสัญลักษณ์ของบุลการีได้รับการผสมผสานเข้าไปในดีไซน์ได้อย่างกลมกลืน
ตลอดระยะเวลากว่า 140 ปีแห่งความยิ่งใหญ่ บุลการีได้รังสรรค์สัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์มากมายที่สะท้อนจิตวิญญาณของแบรนด์อย่างลึกซึ้ง แนวคิดการออกแบบภายในร้านจึงเปรียบเสมือนการสดุดีต่อสัญลักษณ์เหล่านั้น พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวความเชื่อมโยงระหว่างประวัติศาสตร์ มรดกทางศิลปะ และแนวคิดร่วมสมัยที่บุลการียึถือมาโดยตลอด
หนึ่งในองค์ประกอบอันโดดเด่นคือโคมไฟระย้ารูปทรงงูสุดวิจิตร ซึ่งรังสรรค์ด้วยงานแกะสลักกระจกมูราโน่โดยแบรนด์เวนินิ (Venini) เพื่อเฉลิมฉลอง “เซอร์เพนติ” (Serpenti) — สัญลักษณ์อันเป็นตำนานของบุลการี ที่สื่อถึงพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง ความงามที่ลึกลับ และความแข็งแกร่งในตัวผู้หญิงเซอร์เพนติยังเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างรากเหง้าแห่งอารยธรรมกรีก-โรมันกับการออกแบบอันร่วมสมัย โดยนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1940 รูปทรงงูได้กลายมาเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของบุลการี ซึ่งได้รับการตีความใหม่หลายต่อหลายครั้งจนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งอิสรภาพ ความมั่นใจ และความเป็นตัวของตัวเองสำหรับหญิงสาวผู้เปี่ยมเสน่ห์


ภายในร้านยังตกแต่งด้วยผลงานศิลปะสีสันสดใสของแอนดี วอร์ฮอล (Andy Warhol) ศิลปินป็อปอาร์ตชื่อก้องโลก เพื่อเติมชีวิตชีวาให้กับบรรยากาศในร้าน โดยครั้งหนึ่งวอร์ฮอลเคยกล่าวไว้ว่า “สำหรับผม การมาที่ร้านบุลการี ก็เหมือนกับการได้เยี่ยมชมงานศิลปะร่วมสมัยที่ดีที่สุด” คำกล่าวที่สะท้อนถึงความเป็นมากกว่าร้านเครื่องประดับ แต่คือพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจและความงดงามเหนือกาลเวลา
และภายในงานพบกับ 3 แขกคนสำคัญที่เข้าร่วมงานเปิดตัวบูติกของ BVLGARI แห่งใหม่ ณ Central Phuket Floresta ได้แก่ มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง Friend of The House บุลการี ประเทศไทย, แอนโทเนีย โพซิ้ว Miss Universe Thailand 2023 และ ภีม-วสุพล พรพนานุรักษ์ สมาชิกวง BUS (Because of You I Shine







