back to top
HomeWatch & JewelryThe Quartz Crisis เหตุการณ์สำคัญที่เขย่าโลกเรือนเวลา

The Quartz Crisis เหตุการณ์สำคัญที่เขย่าโลกเรือนเวลา

by Praron Pechumpai

ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ถึงต้นทศวรรษ 1970 โลกแห่งการผลิตนาฬิกาได้เผชิญกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของอุตสาหกรรมนี้อย่างสิ้นเชิง เหตุการณ์นี้รู้จักกันในชื่อ ‘Quartz Crisis’ หรือ ‘วิกฤตควอทซ์’ ซึ่งเกิดขึ้นจากการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Quartz Movement

Quartz Movement คืออะไร?

Quartz Movement คือกลไกการทำงานของนาฬิกาที่ใช้แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานหลัก โดยมีแร่ควอทซ์เป็นตัวกำเนิดการสั่นสะเทือนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมการเดินของเข็มนาฬิกา ระบบนี้ต่างจากกลไกแบบดั้งเดิมหรือ Mechanical Movement ซึ่งต้องใช้พลังงานจากการไขลานหรือระบบอัตโนมัติที่ใช้แรงเหวี่ยงจากข้อมือ

ข้อดีของ Quartz Movement ได้แก่
1. ความแม่นยำสูง: การเดินเข็มมีความสม่ำเสมอมากกว่ากลไกแบบจักรกล
2. ราคาต้นทุนต่ำ: กระบวนการผลิตง่ายและสามารถทำเป็นจำนวนมาก
3. การบำรุงรักษาง่าย: ไม่จำเป็นต้องไขลานหรือปรับตั้งเวลาอยู่บ่อยๆ

ด้วยข้อดีเหล่านี้ Quartz Movement จึงกลายเป็นนวัตกรรมที่เขย่าอุตสาหกรรมเรือนเวลาในยุคนั้น

จุดเริ่มต้นของวิกฤต

ในปี 1969 บริษัทนาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่น Seiko ได้เปิดตัวนาฬิการะบบควอทซ์รุ่นแรกของโลก ชื่อว่า Seiko Astron การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการประกาศศักราชใหม่ของการผลิตนาฬิกา ด้วยความแม่นยำที่เหนือกว่าและราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้นาฬิกาควอทซ์ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

ความสำเร็จของ Seiko ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมนาฬิกาดั้งเดิม โดยเฉพาะผู้ผลิตจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “บ้านเกิดของนาฬิกา Mechanical” นาฬิกากลไกที่เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยีชั้นสูงต้องเผชิญกับยอดขายที่ลดลงอย่างหนัก หลายแบรนด์ไม่สามารถปรับตัวได้ทันและต้องปิดกิจการ

Swatch Group: ผู้กอบกู้อุตสาหกรรมนาฬิกา Swiss

ในช่วงเวลาที่ดูเหมือนว่าผู้ผลิตนาฬิกาสวิสกำลังจะสูญสิ้น หนึ่งในผู้ที่ลุกขึ้นมากอบกู้อุตสาหกรรมนี้คือ Swatch Group ซึ่งก่อตั้งโดยการรวมตัวของหลายบริษัทนาฬิกาสวิส แนวคิดของ Swatch คือการสร้างสรรค์นาฬิกาที่ใช้ระบบควอทซ์แต่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นนาฬิกาสวิส ด้วยการผลิตนาฬิกาควอทซ์ที่มีคุณภาพสูงและราคาจับต้องได้

การเปิดตัวนาฬิกา Swatch ในปี 1983 ไม่เพียงช่วยฟื้นฟูความนิยมของนาฬิกาสวิส แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรม โดย Swatch กลายเป็นตัวแทนของความสนุกสนาน ความคิดสร้างสรรค์ และการเข้าถึงคนรุ่นใหม่

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมนาฬิกาในระยะยาว

หลังจากฟื้นตัวจาก Quartz Crisis ผู้ผลิตนาฬิกากลไก (Mechanical Watch) ได้ปรับตัวด้วยการเน้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักสะสมและผู้ชื่นชอบนาฬิกา เช่น การพัฒนากลไกซับซ้อน (Complications) อย่าง Tourbillon และ Perpetual Calendar รวมถึงการใช้วัสดุไฮเทค เช่น คาร์บอนไฟเบอร์และเซรามิก

ในปัจจุบัน ทั้งนาฬิการะบบควอทซ์และระบบจักรกลต่างมีที่ยืนในตลาดนาฬิกา โดยนาฬิกาควอทซ์ยังคงครองส่วนแบ่งใหญ่ในตลาดด้วยความคุ้มค่า ในขณะที่นาฬิกาจักรกลเป็นตัวแทนของงานฝีมือและศิลปะที่มาพร้อมกับประวัติศาสตร์

บทเรียนจาก Quartz Crisis

Quartz Crisis ไม่ได้เป็นเพียงวิกฤตที่ท้าทายอุตสาหกรรมเรือนเวลา แต่ยังเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่สามารถพลิกเกมได้ อุตสาหกรรมนาฬิกาสวิสสามารถยืนหยัดและฟื้นฟูได้เพราะการปรับตัวและการสร้างสรรค์ที่ไม่หยุดนิ่ง

Quartz Crisis คือบทเรียนสำคัญที่สอนให้เราเห็นว่า แม้ในยามวิกฤต หากเรายังรักษาความคิดสร้างสรรค์และความเชื่อมั่นในคุณค่าเฉพาะตัวของเราไว้ ก็สามารถพลิกสถานการณ์ให้กลายเป็นโอกาสได้เสมอ

- COVER ART -

Most Popular

More to See