เปล่งประกายไปกับการเฉลิมฉลองฤดูกาลด้วยเรือนเวลาสุดคลาสสิกอย่างลองจินส์ ที่พร้อมทำให้ทุกคนได้เลือกสรรเรือนเวลาหลากหลายประเภท หากใครกำลังมองหาของขวัญที่สมบูรณ์แบบเพื่อเซอร์ไพรส์คนพิเศษ หรือเป็นของขวัญที่เหนือกาลเวลาให้ตัวคุณเอง วันนี้ทางลองจินส์เตรียมมาให้คุณแล้วในหลากหลายเรือนเวลา
LONGINES MINI DOLCEVITA
ผ่อนคลายไปกับช่วงเทศกาลวันหยุดกับเรือนเวลา Mini DolceVita ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ในทุกรายละเอียด นาฬิกาเรือนนี้จึงเป็นของขวัญที่สมบูรณ์แบบเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความงามแบบ ‘quiet luxury’ ซึ่งจะเพิ่มความหรูหราและเสน่ห์ให้กับทุกชุดที่คุณสวมใส่ในช่วงเทศกาล
Mini DolceVita นั้นคือการต่อยอดจากตระกูล Longines DolceVita อันได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานที่เป็นตำนานของแบรนด์ในปี 1927 โดย Mini DolceVita มาพร้อมกับตัวเรือนสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 21.50 มม. x 29.00 มม. และกลไกควอตซ์ L178 ที่มีความแม่นยำสูงโดดเด่นด้วยตัวเรือนทองคำ 18 กะรัต ประดับเพชร Top Wesselton 38 เม็ด พร้อมหน้าปัดโรมันฟลินเก้สีเงินในรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมด้วยตัวเลขโรมันสีน้ำเงิน เข็มสตีลสีน้ำเงิน และหน้าปัดย่อยวินาทีขนาดเล็กที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสายนาฬิกาทองคำ 106 ข้อต่อ นาฬิกาเรือนนี้จึงเป็นเครื่องประดับที่ให้ความรู้สึกสวมใส่สบาย
THE LONGINES MASTER COLLECTION
Longines Master Collection นำความพิเศษมาสู่เทศกาลด้วยกลไกหน้าปัดที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Moonphase ที่แสดงข้างขึ้นข้างแรม หรือรุ่นโครโนกราฟในคอลเลกชันนี้เน้นย้ำถึงความเชี่ยวชาญของ Longines การผสมผสานความร่วมสมัยและนวัตกรรม ไม่ว่าจะประดับประดาด้วยกลไกที่ซับซ้อน หรือด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายและสง่างาม นาฬิกาเหล่านี้ยืนยันถึงมรดกอันยาวนานและความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตนาฬิกาของ Longines
นาฬิการุ่น 34 มม. โดดเด่นด้วยตัวบ่งชี้ข้างขึ้นข้างแรมที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ล้อมรอบด้วยวงแหวนวันที่พร้อมตัวเลขอารบิกและเข็มที่บ่งบอกวันปัจจุบัน ขับเคลื่อนด้วยกลไก Longines L899.5ซึ่งเป็นกลไกไขลานอัตโนมัติพร้อมสปริงทรงตัวซิลิคอน ความเป็นผู้หญิงของเรือนนี้ได้รับการเสริมด้วยหน้าปัดหอยมุกสีขาวพร้อมเครื่องหมายชั่วโมงที่ประดับเพชรและสายหนังสีแดงสดใส
นาฬิกาโครโนกราฟขนาด 42 มม. นี้มาพร้อมหน้าปัดสีเงินที่ให้ข้อมูลครบถ้วนนอกจากเข็มชั่วโมง นาที โครโนกราฟ และเข็มวันที่ตรงกลางสีน้ำเงินแล้ว ยังมีตัวนับ 12 ชั่วโมงและตัวบ่งชี้ข้างขึ้นข้างแรมที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ตัวนับเวลา 30 นาที พร้อมการแสดงวันและเดือนที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และวินาทีขนาดเล็กพร้อมตัวบ่งชี้ 24 ชั่วโมงที่จัดกลุ่มอยู่บนหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา นาฬิกาเรือนนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก Longines L687.5 calibre ซึ่งเป็นกลไกไขลานอัตโนมัติพร้อมสปริงสมดุลซิลิคอน รุ่นนี้มาพร้อมกับสายหนังสีน้ำเงินเข้มที่สวยงาม
ความสง่างามเหนือกาลเวลาไม่เคยห่างไกลจากความคิดของเรา และในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ Longines Flagship Heritage จะเป็นของขวัญที่ระลึกสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความงามและความคลาสสิค Flagship เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ตั้งแต่ปี 1957 และยังเป็นหนึ่งในคอลเลกชันแรกๆ ของ Longines ที่มีชื่อรุ่นเป็นของตัวเอง
เหรียญทอง 18 กะรัตที่อยู่บนฝาหลังของนาฬิกาเป็นจุดเด่นของคอลเลกชัน Flagship ซึ่งเปิดตัวเมื่อกว่า 65 ปีที่แล้ว แสดงให้เห็นคาราเวลที่แล่นเรือบนทะเลสีฟ้าสดใส นาฬิกาเรือนนี้โดดเด่นด้วยหน้าปัดแบบรังสีดวงอาทิตย์สีเบจ Havana ทรงโดม พร้อมกลไกหน้าปัดข้างขึ้นและแสดงวันที่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ขับเคลื่อนด้วยกลไก Longines L899.5 อันพิเศษ ซึ่งติดตั้งสปริงทรงตัวซิลิคอน ตัวเรือนสตีลขัดเงาซาตินขนาด 38.5 มม. และยังมีสลักที่สั้นลงและลบมุม นาฬิกาหรูหราเรือนนี้มาพร้อมกับสายหนังสีน้ำตาล
LONGINES SPIRIT ZULU TIME
ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและสะท้อนถึงมรดกทางการบินอันยาวนานของแบรนด์ Longines Spirit Zulu Time นำความตื่นเต้นของการผจญภัยมาสู่ข้อมือของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการบินไปกลับในช่วงวันหยุดยาว หรือการวางแผนการพักผ่อนครั้งต่อไป ฟังก์ชัน GMT จะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถติดตามโซนเวลาต่างๆ ได้อย่างสะดวกและแม่นยำ
นาฬิกานี้ได้รับชื่อมาจากนาฬิกาข้อมือสองโซนเวลาของลองจินส์ที่ผลิตขึ้นในปี 1925 ซึ่งมีธงชาติซูลูบนหน้าปัด โดยคำว่า “ซูลู” หมายถึงตัวอักษร Z ที่ใช้กำหนดเวลาสากล ซึ่งเป็นระบบเวลาที่นักบินและลูกเรือใช้ในการเดินทางข้ามทวีป
เรือนเวลารุ่นนี้โดดเด่นด้วยขอบหน้าปัดหมุนได้สองทิศทางที่ประดับด้วยเซรามิกสีเขียว และหน้าปัดสีแอนทราไซต์ที่ผ่านการพ่นทราย พร้อมหน้าต่างแสดงวันที่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ตัวเรือนสตีลขนาด 39 มม. มาพร้อมกับกลไก Longines L844.4 ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งประกอบด้วยสปริงบาลานซ์ซิลิคอน ซทนทานต่อสนามแม่เหล็กได้สูงกว่ามาตรฐาน ISO 764 ถึงสิบเท่า กลไกไขลานอัตโนมัติที่มีความแม่นยำสูงนี้มีพลังสำรองสูงสุด 72 ชั่วโมง และได้รับการรับรองโครโนมิเตอร์จาก COSC (สถาบันทดสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาแห่งสวิตเซอร์แลนด์) นาฬิกาเรือนนี้ยังมาพร้อมกับสายนาฬิกาเหล็กที่สามารถเปลี่ยนได้ตามต้องการ
CONQUEST
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นในช่วงเทศกาลนี้ Longines Conquest เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าคุณจะไปเล่นหิมะหรือเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์สุดหรู นาฬิกาสุดยอดในชีวิตประจำวันเหล่านี้ผสมผสานฟังก์ชันสปอร์ตเข้ากับสไตล์ที่หรูหรา
ในปีนี้ Conquest ฉลองครบรอบ 70 ปี และยังเป็นคอลเลคชั่นแรกของลองจินส์ที่ได้รับการคุ้มครองชื่อโดยสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของสหพันธรัฐสวิสในปี 1954 ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตัวเรือนสตีลขนาด 34 มม. มาพร้อมฝาปิดและเม็ดมะยมโรสโกลด์ รุ่นนี้โดดเด่นด้วยหน้าปัดซันเรย์สีม่วง เข็มนาฬิกาและเครื่องหมายชั่วโมงโรสโกลด์ พร้อมวันที่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ขับเคลื่อนด้วยกลไก Longines L888.5 ที่มีซิลิคอนบาลานซ์สปริงและส่วนประกอบใหม่ที่ทำจากวัสดุที่ไม่ใช่แม่เหล็ก นาฬิกาอเนกประสงค์นี้มาพร้อมกับสายยางสีม่วงที่สวยงาม
CONQUEST HERITAGE CENTRAL POWER RESERVE
นาฬิกาที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ ด้วย Conquest Heritage Central Power Reserve ลองจินส์ได้นำเสนอการกลับมาของหนึ่งกับนาฬิกาอันเป็นเอกลักษณ์นี้มีความโดดเด่นและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี 1959 ด้วยตัวบ่งชี้พลังงานสำรองที่ได้รับการออกแบบให้แสดงผลผ่านดิสก์หมุนสองแผ่นที่กึ่งกลางของหน้าปัด เข็มอินดิเคเตอร์ในรูปทรงบาตงที่มีด้านบนกว้างกว่าด้านล่าง จะบ่งบอกถึงระดับพลังงานที่คงเหลือบนแผ่นดิสก์ภายนอก ซึ่งจะค่อยๆ วิ่งจากหมายเลข ’64’ ไปจนถึง ‘0’
หน้าปัดแชมเปญสามส่วนของนาฬิกาที่สะดุดตานี้ประดับด้วยเครื่องหมายชั่วโมงสีเหลืองทองสิบสองตำแหน่ง ซึ่งสอดคล้องกับลวดลายวงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ของคอลเลคชั่น Conquest โดยมีการแสดงผลพลังงานสำรองผ่านจานหมุนกลางหน้าปัด ที่แสดงให้เห็นพลังงานสำรองที่เหลืออยู่ และสามารถหมุนกลับได้ด้วยการหมุนเม็ดมะยมหรือขยับข้อมือ ซึ่งจะทำให้จานหมุน (coiling disc) หมุนไปเอง อีกหนึ่งคุณสมบัติเด่นของรุ่นนี้คือการแสดงวันที่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา นาฬิกาสตีลขนาด 38 มม. นี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก Longines L896.5 สุดพิเศษ ซึ่งมาพร้อมกับซิลิคอนบาลานซ์สปริงและส่วนประกอบที่ทำจากวัสดุที่ไม่ใช่แม่เหล็กอีกด้วย