ถือเป็นร้านอาหารสแปนิชอันดับหนึ่งในย่านราชพฤกษ์ สำหรับ “Bodegas Wine” (โบเดกาสไวน์) ที่การันตีโดยมิชลินไกด์ 3 ปีซ้อน และในปีนี้ โบเดกาสไวน์ได้ปรับรูปโฉมและคอนเซปต์ใหม่ทั้งร้าน พร้อมกับจัดงานเปิดตัวไวน์ Discolo อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ และเป็นการแนะนำเมนูพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นใหม่ในฤดูกาลนี้ พร้อมชูวัตถุดิบส่งตรงจากสเปน และยังเพิ่มวัตถุดิบจากท้องถิ่นของประเทศไทยมาผสมผสานเพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นและลดผลกระทบของมลพิษจากการขนส่งวัตถุดิบ พร้อมใช้วัตถุดิบทุกอย่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด แบบ Zero Waste เพื่อตอกย้ำคอนเซ็ปต์ในการบริหารร้านที่ต้องการให้เป็น Sustainability Restaurant อย่างแท้จริง
คุณจันทร์เพ็ญ เจียมสมัย หรือ คุณเล็ก ผู้ก่อตั้ง Bodegas Wine ฉายภาพย้อนไปให้ฟังว่า เดิมทีคุณเล็กมีโอกาสเดินทางไปยังสเปนอยู่บ่อยๆ ทำให้หลงรักและหลงใหลในอาหารสเปน เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วที่ประเทศไทยหาร้านอาหารและไวน์สเปนรสชาติแบบต้นตำรับทานยาก จึงเริ่มนำเข้าวัตถุดิบ อาหาร และไวน์จากสเปน หลังจากนั้นจึงริเริ่มมีความคิดอยากที่จะทำร้านอาหารสเปน จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำร้านโบเดกาสไวน์ขึ้น โดยวัตถุดิบที่นำเข้ามาเองส่งตรงมาจากสเปน โดยคุณเล็กเชื่อว่า รสชาติของอาหารที่ดีเริ่มต้นจากการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการรังสรรค์ความอร่อยให้กับทุกเมนู ด้วยเหตุนี้ ทุกจานที่เสิร์ฟให้กับลูกค้าจึงไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยรสชาติที่ยอดเยี่ยม แต่ยังมอบความรู้สึกเหมือนได้ทานอาหารจากคนในครอบครัว ที่ใส่ใจและทำด้วยความรัก
คอนเซ็ปต์ของ Bodegas Wine คือ อยากนำอาหารจากหลากหลายเมืองของสเปน ให้เข้าใจง่ายและถูกปากคนไทย จึงนำเสนออาหารสเปนในรูปแบบเมนูฟิวชั่น บรรยากาศภายในร้านเน้นการตกแต่งให้มีความ Classy และเรียบหรูเมื่อก้าวเข้ามาในร้าน ชั้น 1 จัดเป็นโซนที่นั่งสบายๆ ใช้โทนสี Etoupe ให้มีกลิ่นอายของไวน์บาร์บรรยากาศชิลล์ๆ และมีโซนห้องเก็บไวน์นานาชนิดที่ทางร้านคัดสรรมาจากทุกเมืองของสเปนเพื่อมอบประสบการณ์การดื่มด่ำรสชาติอาหารคู่กับไวน์ได้ดีที่สุด ส่วนชั้น 2 ตกแต่งในสไตล์ลักซ์ชูรีใช้โทนสี Earth Tone เพิ่มความเรียบหรู ผสานกับสีขาวที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ตัดด้วยสีดำและทองเพื่อเติมเสน่ห์อันโดดเด่นและความ Classy ที่ลงตัว ให้ความรู้สึกอบอุ่นและโรแมนติก และ Luxury นั่งทานได้อย่างได้เป็นกันเอง
นอกจากนั้น เมนูที่ทางโบเดกาสไวน์ คัดสรรมาเป็นพิเศษ เพื่อใช้ในงานเปิดตัวไวน์ Discolo อย่างเป็นทางการนี้ เรียกว่าเป็นเมนูที่ไม่ใช่เพียงใช้วัตถุดิบพรีเมียมจากสเปนเท่านั้น แต่ยังครีเอทให้แต่ละจานมีเรื่องราวอีกด้วย อาทิ
TxangurroFusion (เนื้อปูม้าและมันปูผัดกับซอสสูตรพิเศษของเชฟ) เมนูนี้ได้แรงบันดาลใจจากเมนูปูอบสไตล์บาสก์ ซึ่งปกติทำจากเนื้อปูสไปเดอร์ โดยทางร้านนำทำเป็นเมนูฟิวชันโดยใช้เนื้อปูม้าสดใหม่จากเกาะลันตา / ตามมาด้วยพาสต้าจานอร่อย Seasonal Fish & Scallop Khao Soi (ข้าวซอยปลาและหอยเชลล์) เมนูนี้มีการนำเครื่องเคียงมาแยกองค์ประกอบให้ดูแปลกใหม่ขึ้นเพิ่มมิติและรสชาติใหม่ ใช้วิธีการปรุงแบบเวสเทิร์น และใช้วิธีการดองผักกาดเขียวแบบดั้งเดิม / ส่วน Main Dish มีทั้ง Chicken Earth (ขาไก่ซอสต้นกระเทียมและซอสทรัฟเฟิล) เป็นเมนูที่มีส่วนผสมหลักเป็นไก่ท้องถิ่นจากฟาร์มที่โคราช ตามมาด้วย Collar Spice (สันคอหมูดำ Iberico เครื่องเทศและซอสสูตรพิเศษ) / ส่วนเมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่ไม่ควรพลาด คือ Jamon Iberico หรือที่เรียกกันว่า Iberico Ham เป็นแฮมที่มีคุณภาพดีจนขึ้นแท่นเป็นแฮมที่ดีที่สุดและราคาแพงที่สุดของโลกอีกด้วย / และอีกเมนูที่ได้รับการบรรจุในมิชลินไกด์ คือ Paella de Gambas ที่ทางร้านนำข้าวไปหุงบนกะทะ กับน้ำสต้อก Lobster รับรองว่าถ้าได้ลองต้องอยากซ้ำอย่างแน่นอน
ส่วนไวน์ในวันนี้เป็นไวน์จากโรงไวน์ DISCOLO โรงไวน์ที่คุณเล็กได้จับมือกับพันธมิตรชาวสเปน ผู้คร่ำหวอดในวงการไวน์ตระกูล Somoza de la Peña, Sánchez Maillo, Sánchez Monje ที่ตั้งอยู่ ณ เมือง El Pego จังหวัด Zamora ในภูมิภาค Toro ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตไวน์แดงที่ดีที่สุดของสเปน อีกทั้งยังได้รับการยกย่องจากผู้เชี่ยวชาญในวงการไวน์และคว้ารางวัลระดับโลกมาได้หลายรางวัล นอกจากนี้ยังเป็นไวน์ออร์แกนิก เก็บเกี่ยวด้วยมือ ไม่ใช้สารเคมีที่ทำร้ายระบบนิเวศน์ด้วย โดยแบรนด์ DISCOLO ประกอบด้วย 4 ฉลากด้วยกัน อาทิ
DISCOLO Blanco ไวน์ขาวฉลากเดียวของโรงไวน์ จะคัดเลือกองุ่นอายุมากกว่า 50 ปี จากพันธุ์องุ่นขาวที่เก่าแก่ที่สุดอย่าง Malvasia และ Verdejo สามารถทานคู่กับเนื้อแดงได้ / DISCOLO Cinco de Copas คัดเลือกองุ่นอายุมากกว่า 40 ปี ไวน์แดงตัวเริ่มต้นของโรงไวน์ ให้กลิ่นผลไม้สีแดง หมักบ่มในถังอเมริกันและเฟรนช์โอ๊คนาน 6 เดือน เหมาะกับการทานคู่กับเนื้อแดง / DISCOLO คัดเลือกองุ่นอายุมากกว่า 90 ปี ไวน์จะถูกบ่มในถังบ่ม 22 เดือน เหมาะกับการทานคู่กับเนื้อแดงหรือเนื้อสัตว์ป่าแถบยุโรป / และ DISCOLO El Magnifico ไวน์ตัวท็อปของโรงไวน์ คัดเลือกองุ่นอายุ 100 – 150 ปีขึ้นไป ถูกบ่มในถังบ่ม 40 เดือน ในถังซีเล็คเต็ด นิว เฟรนช์ โอ๊คที่เนื้อไม้มีความละเอียดพิเศษ และใช้ต้นองุ่นเดิมที่ไม่โดน Phylloxera แบบในฝรั่งเศส ใช้แนวคิดในการออกแบบให้เป็น “Luxury Organic Wine”
Bodegas Wine ยังคงคอนเซ็ปต์ในการบริหารร้านที่ต้องการให้เป็น Sustainability Restaurant ให้มากที่สุด โดยเน้นย้ำในเรื่องใช้วัตถุดิบทุกอย่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด แบบ Zero Waste รวมถึงการใช้พลังงานสะอาดที่นำระบบ Energy Management มาใช้จัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเดินหน้าสู่ร้านอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม