ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไปเทศกาลดนตรี 808 Festival ก็ยังคงรักษามาตรฐานการเป็นเทศกาลดนตรีสายแดนซ์ร่วมสมัยที่ยิ่งใหญ่อลังการทั้งในเรื่องของงานโปรดักชั่นและไลน์อัปดีเจในระดับฟ้าประทานอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย ซึ่งในปี 2024 นี้งาน 808 Festival ยังคงจัดที่ ไบเทค บางนาใน วันที่ 6-8 ธันวาคมนี้ จะเพิ่มดีกรีมหากาพย์ ดีกรีความเป็นที่สุดให้ทวีให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก กับรายชื่อดีเจที่นับได้ว่าเป็นตัวเทพตัวท็อปแห่งวงการดนตรีแดนซ์ในเวลานี้ ถือการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้เฟสติวัลสายแดนซ์ในไทยเลยก็ว่าได้ 808 Festival ยังคงตอกย้ำภาพ “ผู้มาก่อนกาล”
มัตติโอ มิลเลอรี หรือ Anyma เป็นดีเจหนุ่มลูกครึ่งอิตาเลียน/อเมริกาวัย 36 ปีที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นดีเจที่นำดนตรีเทคโนมาผสมผสานกับดนตรีเต้นรำในแขนงอื่นๆออกมาได้อย่างลื่นหูและเนี้ยบมากๆ สไตล์ดนตรีที่เขาเล่นเป็นแนว เทคโน ที่มีบีทในย่านเสียงเบสที่ค่อนข้างต่ำแต่ Anyma ใช้ทักษะส่วนตัวในการนำบีท 4/4 แบบดนตรีเฮาส์มามิกซ์กับดนตรีป็อปได้อย่างแนบเนียน
Welcome to the Opera จากอัลบั้ม Genesys ที่ได้ศิลปินสาว Grimes (และในปัจจุบันเป็นคนรักของ Anyma) มาร่วมร้องถือเป็นเพลงแดนซ์ที่เปิดศักราชใหม่ของดนตรีเต้นรำยุคใหม่ด้วยการนำดนตรีป็อป, เทคโน และ โอเปร่า มาเล่นแร่แปรธาตุจนกลายเป็นเพลงแดนซ์ที่เป็นต้นแบบให้กับดีเจแนวเทคโนรุ่นใหม่ๆได้นำไปพัฒนาต่อ โดยนักวิจารณ์ดนตรีทั่วโลกยกย่อง Anyma ว่าเป็นดีเจและโปรดิวเซอร์ที่ปลุกชีพให้ดนตรี Electronica ที่มีส่วนผสมจากเสียงสังเคราะห์จากซินธิไซเซอร์ที่ให้ซาวด์ที่หลากหลาย ซึ่งเคยได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงยุค 90 ให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งด้วยมนต์เสน่ห์ของดนตรีเทคโน โดยอัลบั้ม Genesys และ Genesys II ของเขาถือเป็นคัมภีร์ของดนตรี Contemporary Electronic Dance Music หรือดนตรีแดนซ์ยุคใหม่ได้อย่างไร้ข้อกังขา
Alok คือดีเจหนุ่มที่สร้างความว้าวและความประทับใจแบบจำไม่ลืมให้เหล่า 808 Family ในปีที่แล้วปีนี้เขากลับมาอีกครั้ง เตรียมตัวให้พร้อมกับค่ำคืนแห่งเสียงดนตรีสุดกระแทกใจ! และ Alok จะมาเป็น Headliner ในงาน 808 Festival 2024! อีกด้วย Alok ศิลปินอันดับ 4 ของโลกโดย DJ Mag เป็นเวลาสี่ปีติดต่อกันและเขายังคงเป็นศิลปินที่อยู่แถวหน้าของวงการ EDM ในบราซิลและเป็นศิลปินที่สร้างแรงบัลดาลใจให้กับแฟนๆทั่วโลก
Alok เป็นที่รู้จักกันดีจากเพลง “Hear Me Now” และเพลงฮิตอื่นๆของ Alok ได้แก่ Never Let Me Go, Fuego, Favela, Ocean และ I Miss U! Alok ยังเป็นผู้นำในวงการ EDM ของบราซิล โดยเขานั้นได้รับรางวัลมากมาย เช่น “Best DJ in Brazil” ในปี 2014 และ 2015 จาก House Mag ด้วยอิทธิพลของเขาทำให้ Forbes Brazil ยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งในดีเจที่มีอิทธิพลที่สุดในประเทศในปี 2017
James HYPE เป็นหนึ่งในดีเจที่มีชื่อเสียงที่สุดของ UK และได้รับความนิยมทั่วโลก ผลงานเพลงของเขาโดดเด่นตั้งแต่ซิงเกิ้ลเปิดตัว “More than Friends” ที่ได้รับการรับยอดขายแผ่นเสียงระดับ Platinum และ Gold! พร้อมกับเพลง Ferrari ที่มียอดสตรีมทะลุ 676 ล้านครั้งและกวาดรางวัล Platinum Records หลากหลายทั่วโลก นับว่าเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในวงการเพลงอิเล็กทรอนิกส์ ไม่เพียงแค่เพลงของเขาที่โด่งดังเท่านั้น! James HYPE ยังเป็นศิลปินที่รีมิกซ์เพลงให้กับศิลปินดังๆ ไม่ว่าจะเป็น Meduza, Joel Corry, Oliver Heldens และการรีมิกซ์เพลงเหล่านี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามมียอดสตรีมรวมกันกว่า 100 ล้านครั้ง ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถและอิทธิพลของเขาในวงการเพลงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ความสามารถและการแสดงของ James HYPE ยังทำให้เขาได้รับโอกาสไปแสดงในเทศกาลดนตรีระดับโลกเช่น Tomorrowland, Ultra Music Festival และอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแฟนเพลงหรือผู้ที่ชื่นชอบเพลงอิเล็กทรอนิกส์ ทุกคนต่างรอชมการแสดงของเขาอย่างใจจดใจจ่อ
Sara Landry เป็นดีเจสาวสุดฮอตแห่งยุคนี้ ที่สังกัดค่าย Exhale, RAW, Techno Germany รวมถึง Mau5trap ของโปรดิวเซอร์และดีเจแนว โปรเกรสซีฟ เฮาส์ ระดับตำนานอย่าง Deadmau5 แถมเธอยังเป็นเจ้าของค่ายเพลง HEKATE อีกด้วย โดย Sara Landry เป็นเฮดไลนเนอร์คนที่ 2 ของงาน 808 Festival 2024 สำหรับแฟนๆที่ชอบดนตรีแดนซ์ที่เน้นบีทหนักๆสไตล์ Hard Techno จะต้องหลงรักงานเพลงของเธอแน่นอน เพราะในชั่วโมงนี้เธอถือว่าเป็นศิลปินหญิงแนว Hard Techno เบอร์ต้นๆของวงการแล้ว
Mau P ดีเจหนุ่มและโปรดิวเซอร์ที่มีชื่อเสียงอย่างรวดเร็วจากการนำเสนอสิ่งใหม่ๆที่ไม่เหมือนใครจากเพลงของเขาในแนว house และ tech-house ที่ได้สร้างความประทับใจในเวทีระดับโลกมาแล้วมากมาย! Mau P เป็นที่รู้จักจากเพลงฮิตอย่าง Drugs From Amsterdam โดยเคยไปแสดงในงานชั้นนำต่างๆ เช่น Ultra Miami, Creamfields และ Elrow โดยความสามารถของเขานั้นสามารถควบคุมร่างกายและความรู้สึกของผู้คนให้สนุกไปกับเสียงเพลง จนทำให้ Mau P กลายเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ถูกพูดถึงอย่างมากในวงการดนตรีอิเล็กทรอนิกส์
Miss Monique หนึ่งในดีเจ melodic techno และ techno ที่หลายๆคนตั้งหน้าตั้งตารอในตอนนี้! เธอเคยแสดงในงานเฟสติวัลสำคัญๆ ทั่วโลก รวมถึง Tomorrowland, Untold Festival, ADE และด้วยสไตล์เพลงระหว่างmelodic techno และ techno ที่ผสมกันได้อย่างลงตัวทำให้เธอนั้นได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลกจากเพลงฮิตติดหูอย่าง No Fear, Mind Games และรีมิกซ์เพลงมากมายทำให้ Miss Monique ก้าวสู่ดีเจอิเล็กทรอนิกส์ของโลก! นอกจากนี้เธอยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน 10 ดีเจหญิงยอดนิยมประจำปี 2023 ทำให้ Miss Monique เติบโตในเส้นทางนี้ได้อย่างรวดเร็ว ห้ามพลาดกับการแสดงของเธอที่จะพาทุกคนไปสนุกกันตลอดทุกช่วงวินาทีของการแสดงเธอ
San Holo ดีเจ, โปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงหนุ่มชาวเนเธอร์แลนด์ที่สร้างชื่อจากการนำเพลง The Next Episode ของ Dr. Dre มารีมิกซ์ในแนว Future Bass และมีการนำจังหวะอันโดดเด่นจากเพลง Drop It Like It Hot ของ Snoop Dogg มาใช้เป็นแซมเพิลด้วยจะมาร่วมสร้างความมันให้กับงาน 808 Festival ปีนี้ด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์มาก เพราะนี่คือหนึ่งในดีเจระดับแถวหน้าของวงการเพลง Trap, Future Bass และ Electronic Pop ร่วมสมัย สิ่งที่ทำให้งานเพลงของ San Holo โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ก็คือการนำสีสันของดนตรีซินธ์ป็อป, อิเล็กทรอนิกส์ เฮาส์ ไปจนถึง เบรก บีท มาผสมผสานกับกลิ่นอายของดนตรีอะคูสติก, แดนซ์ ป็อป และ แอมเบียนท์ ได้อย่างน่าสนใจ โดยซิงเกิลฮิตของเขาก็คือเพลง Light, Still Looking, We Rise, Bring Back the Color ที่ได้นักร้องสาว AURORA มาร่วมฟีเจอริง รับรองได้เลยว่าการมาเปิดเพลงบนบู้ทดีเจในงานครั้งนี้จะสร้างความประทับใจให้กับแฟนเพลงทุกคนแน่นอน
พลาดไม่ได้กับโชว์ของ Chase & Status แฟนเพลงสายแดนซ์แนว Drum & Bass และ Big Beat คู่หูดีเจจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษที่ประกอบไปด้วย ซอล มิลตัน หรือ Chase และ วิล เคนนาร์ด หรือ Status โดย Chase & Status จะมาโชว์ในไทยในรูปแบบ DJ Set ที่รับรองได้ว่าเดือดและจะทำให้แดนซ์ฟลอร์สะเทือนด้วยบีท ฮิป ฮอป อันหนักหน่วงที่จะสะเทือนไปถึงแก่นกะโหลกอย่างแน่นอน โดย Chase & Status ปล่อยสตูดิโออัลบั้มออกมาแล้ว 6 ชุดและเคยร่วมงานกับแร็ปเปอร์ระดับแถวหน้าของอังกฤษอย่าง Plan B, Example, Tinie Tempah, Stormzy รวมถึง Rihanna และ Cee Lo Green ด้วย จุดเด่นในงานเพลงของดีเจคู่นี้ก็คือการนำดนตรีแนว Raggaeton จากจาไมก้า, ฮิปฮอป จากฝั่งอีสต์โคสต์ในอเมริกา ไปจนถึง เบรกบีท ฮาร์ดคอร์ มาผสมผสานกับจังหวะดนตรีที่ทั้งโหดและมันสุดๆอย่าง Drum & Bass ไปจนถึง Jungle ที่มีบีทที่เร็วติดจรวดได้อย่างหวดสุดๆ ซึ่งหาได้ยากมากที่จะได้ดูโชว์แบบสดๆจากดีเจแนวนี้ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก Chase & Status เจ้าของเพลงฮิตอย่าง BACKBONE, Baddadan, Disconnect, Gunfighter และ Liquor & Cigarettes ที่ในเวลานี้ถือเป็นดีเจดูโอระดับแถวหน้าของวงการไปแล้ว
เวที Drumcode : เพลงเทคโนสุดว้าว….ไว้วางใจได้เลยเพราะทาง Drumcode Records ซึ่งเป็นค่ายเพลงชื่อดังของจากสวีเดนที่ได้รับการยอมรับในการจัดอีเวนต์ดนตรีแดนซ์ในแนวเทคโน, แทรนซ์ และ เฮาส์ ระดับโลกอย่าง Drumcode Montreal, Drumcode Amsterdam และ Drumcode San Jose มาแล้ว จะมาทำหน้าที่เป็นคุมเวทีที่2 เรียกได้ว่ามั่นอกมั่นใจได้เลยว่าซาวด์ของโชว์สุดพิเศษนี้จะออกมาแน่นปึ้กกระแทกโสตประสาททุกบีทที่ปล่อยออกมาอย่างแน่นอน โดย Drumcode เป็นค่ายเพลงที่มี Adam Beyer โปรดิวเซอร์และดีเจแนวแทรนซ์เป็นผู้ก่อตั้ง
นอกจากนี้เขาก็ยังเป็นผู้ที่มีส่วนสร้างซีนดนตรีเทคโนให้เป็นที่นิยมในแวดวงดนตรีแดนซ์ที่สวีเดนมาอย่างยาวนานตั้งแต่กลางยุค 90 และตอนนี้ Adam Beyer คือศิลปินตำนานของวงการเทคคโนซึ่งกำลังจะมาแสดงที่ 808 Festival 2024 การแสดงที่เป็นเอกลักษณ์และความมันส์จากเพลงของเขา กับเพลงที่ทุกคนน่าจะคุ้นหูกันอยู่แล้วอย่าง Your Mind, Teach Me และ What You Need ทำให้ Adam Beyer ยังคงก้าวข้ามขีดจำกัดและเป็นศิลปิน Techno ขึ้นชื่อของโลก อีกหนึ่ง Headliner ในงานเฟสติวัลระดับโลกทั่วโลก
ดีเจที่จะมาร่วมสร้างปรากฎการณ์แห่งปีในงาน 808 Festival 2024 ยังไม่หมดลงแค่นี้ ศิลปินทั้งหมดที่กล่าวมายังเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เพราะยังมีดีเจอีกหลายคนที่รับรองได้ว่าถ้าหากประกาศชื่อออกมาแล้วทุกคนจะต้องร้องว้าวและปลื้มปริ่มแบบสุดตัวอย่างแน่นอน ในตอนนี้ก็ขอให้ Stay Tuned! เอาไว้เพราะ 808 Festival 2024 จะยังมีการประกาศไลน์อัปศิลปินเพิ่มเติ่มที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับทุกคนให้สมกับเป็นเทศกาลดนตรีEDMที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทยมาโดยตลอด และในปีนี้กำลังจะสร้างความสนุกแบบลืมโลกให้ทุกคนได้สัมผัสกันเป็นครั้งที่ 11 แล้ว