ประเทศญี่ปุ่นจะมีจุดที่ใช้ดูว่า “เอ๊ะ นี่เราเข้าสู่หน้าหนาวแล้วหรือยัง” ด้วยการสังเกตุภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์สำคัญของแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งหากมีหิมะตกบริเวณปากปล่องภูเขาไฟแล้วล่ะก็ เตรียมตัวรับมือกับลมหนาวได้เลย
แต่ในปีนี้กลับยังไร้วี่แววของหิมะแรกที่ว่า โดยเฉลี่ยแล้วจะมาในช่วงปลายเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคม และเคยมาช้าแบบสุดๆ แล้วในวันที่ 26 ตุลาคม ในปี 1955 และ 2016
แต่ก็โดนทำลายสติเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับปี 2024 สำนักข่าวญี่ปุ่นรายงานว่า ปีนี้เป็นปีที่หิมะมาเยือนภูเขาไฟฟูจิล่าช้าที่สุดในรอบ 130 ปีนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติครั้งแรกในปี 1894 จากสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาไปประมาณ 40 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่กล่าวว่าสภาพอากาศที่มีเมฆมากโดยรอบภูเขาไฟหรือในเมือง อาจทำให้พวกเขายืนยันการเกิดหิมะปกคลุมได้ยาก แม้ว่าหิมะจะตกแล้วก็ตาม แสดงให้เห็นว่าภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อโลกของเรานั้นเริ่มหนักข้อขึ้นทุกวัน
มันอาจจะยังไม่สายไปในตอนนี้ที่เราจะเริ่มหันมารักโลกให้มากขึ้น อะไรที่สามารถทำเพื่อรักษาโลกได้ก็ทำไปเถอะ แม้มันจะเล็กน้อยจนแทบไม่มีใครเห็น แต่มันก็ยังดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย แล้วคอยเฝ้ามองให้โลกนี้ตายลงอย่างช้า ๆ ในทุกวัน