เมื่อ 24 กันยายน พ.ศ.2567 Nothing ได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดคือ Ear (open) เป็นหูฟังรูปแบบสเตอริโอไร้สายแบบครอบหู (OWS) กับรุ่นแรกของแบรนด์ที่ได้ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่เหนือระดับโดยพร้อมผสมผสานคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมเข้ากับความสะดวกสบายและการรับรู้สภาพแวดล้อมรอบข้างนำเสนอประสบการณ์การฟังในรูปแบบใหม่ที่เหนือชั้นและเชื่อมต่อได้มากกว่าเคยพบกับ
เทคโนโลยี Open Sound เพื่อการรับฟังที่ไร้รอยต่อ
Ear (open) มาพร้อมกับเทคโนโลยี Open Sound ของ Nothing กับการสร้างประสบการณ์เสียงที่ล้ำลึกมากขึ้นแต่ยังคงรักษาการรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัวของผู้ใช้ โดยไม่ว่าจะเป็นเสียงความวุ่นวายในเมืองใดๆ ผู้ใช้ก็สามารถเชื่อมต่อการรับรู้กับสิ่งรอบข้างได้และการออกแบบแบบเปิดนี้มาพร้อมกับระบบ Sound Seal และลำโพงทิศทางเฉพาะเพื่อช่วยลดการรั่วไหลของเสียง เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวในขณะที่เวทีเสียงยังสมดุลอย่างลงตัว
ดีไซน์ล้ำสมัยที่ผสมผสานกับนวัตกรรม
ดีไซน์ที่บางและโปร่งใส เน้นให้เห็นถึงความประณีตในการสร้างสรรค์รูปลักษณ์ที่เรียบหรู ด้วยน้ำหนักเพียง 8.1 กรัมต่อข้าง และเคสที่บางเพียง 19 มิลลิเมตร ทำให้ Ear (open) เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่บางที่สุดในหมวดหูฟังสเตอริโอไร้สายแบบครอบ (OWS) มาพร้อมกับเคสชาร์จที่กะทัดรัดและมีดีไซน์การจัดเก็บที่ใช้งานง่าย พกพาสะดวก
Ear (open) สามารถสวมใส่ได้ตลอดวันเพราะถูกออกแบบมาเพื่อความสบายด้วยระบบสมดุลสามจุดและตะขอเกี่ยวหูซิลิโคนที่เพิ่มความกระชับและเบาสบายซึ่งปรับให้เข้ากับรูปทรงของหูได้ทุกรูปแบบการออกแบบนี้ผสานกับส่วนประกอบที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษยึดเกาะกับใบหูได้ดีระหว่างการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือแม้กระทั่งขณะทำกิจกรรมอย่างวิ่งหรือปั่นจักรยาน
ประสิทธิภาพเสียงขั้นสูง
มอบคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมผ่านไดอะแฟรมซึ่งทำหน้าที่ทำให้เกิดเสียงจากการสั่นสะเทือน ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะและอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร การออกแบบที่เคลือบด้วยไทเทเนียม ประกอบกับไดรเวอร์หรือตัวกำเนิดเสียงน้ำหนักเบาพิเศษพร้อมการออกแบบแบบขั้นบันได รูปทรงของหูฟังที่ออกแบบมาโดยเฉพาะนี้ช่วยลดการบิดเบือนของเสียงและเพิ่มประสิทธิภาพในย่านความถี่ต่ำ และไทเทเนียมที่ใช้นั้นเคลือบนั้นก็ช่วยทำให้มีเสียงสูงที่คมชัด ส่วนประกอบของไดรเวอร์ที่มีน้ำหนักเบากว่าหูฟังทั่วไปเกือบ 30% นั้นก็ส่งเสริมการทำงานของเสียงกลางและเสียงสูงได้อย่างดีเยี่ยม การออกแบบแบบขั้นบันไดก็ช่วยทำให้ลำโพงขยับเข้าใกล้หูมากขึ้นโดยที่ยังคงความสบายในขณะใช้งาน อีกทั้งยังมีอัลกอริทึมที่เพิ่มประสิทธิภาพของเบสอัตโนมัติที่ช่วยปรับความถี่ต่ำเพื่อสร้างประสบการณ์เสียงเบสที่ลึกและเข้มข้นยิ่งขึ้นแบตเตอรี่และประสิทธิภาพตลอดวันอีกด้วย
สามารถเล่นเพลงได้อย่างต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียงหนึ่งครั้งและสูงสุดถึง 30 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงหรือพอดแคสต์ได้ตลอดทั้งวันสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางเพียงชาร์จด่วนแค่ 10 นาทีก็สามารถฟังเพลงได้นานถึง 2 ชั่วโมง
และยังมีเทคโนโลยี Clear Voice เป็นตัวช่วยที่ทำให้การโทรมีความคมชัดแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายด้วยการประมวลผลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งได้รับการฝึกฝนจากข้อมูลเสียงรบกวนกว่า 28 ล้านสถานการณ์มาพร้อมกับฟีเจอร์ Dual Connection ที่ช่วยให้การสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์เป็นไปอย่างราบรื่นขณะที่โหมด Low Lag ช่วยปรับประสบการณ์การเล่นเกมทำให้เกิดการดีเลย์ของเสียงน้อยที่สุด
ฟีเจอร์อัจฉริยะเพื่อโลกที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
Ear (open) ยังคงเดินหน้าภารกิจของ Nothing ในการผสานคุณสมบัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI เข้ากับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วยการรวม ChatGPT ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์โดยตรงจากหูฟัง เพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบายโดยไม่ผ่านการสัมผัส โดยฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานผ่านแอป Nothing X ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง ChatGPT ได้โดยการควบคุมด้วยเสียง ทำให้การรับข้อมูลข่าวสารในขณะเดินทางง่ายดายกว่าที่เคย
Pricing and Availability
Ear (open) เปิดขายในราคา 5,599 บาท โดยวางจำหน่ายที่ร้าน CARNIVAL สาขาสยามสแควร์ ซอย 7 เปิดให้สั่งซื้อเป็นที่แรกในจำนวนจำกัด วันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2567 หรือพรีออเดอร์ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม ที่ช่องทางต่างๆ Jaymart, Nothing Shopee Official Store, Dotlife Website และ Munkong Website พบกันทั่วประเทศในวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม ในทุกช่องทาง