เมื่อช่วงเวลาของฤดูใบไม้ร่วงเริ่มต้นขึ้น Gaggan at Louis Vuitton พร้อมนำเสนอเมนูใหม่ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยวัตถุดิบอันสดใหม่ของฤดูกาลทั้งจากในประเทศไทยและในภูมิภาค โดยเชฟ Gaggan Anand เชฟเจ้าของรางวัลมากมายยังคงเสาะแสวงหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ เพื่อนำมาสรรสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับลูกค้าด้วยเมนูอาหารสไตล์ Progressive Asian ที่เขารังสรรค์ขึ้น
เมนูประจำฤดูกาลในปีนี้ประกอบด้วยอาหารจานใหม่ที่เป็นซิกเนเจอร์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากฤดูล่าสัตว์อย่าง “Quail” เนื้อนกกระทาส่วนอกที่หมักด้วยเครื่องเทศเชตตินาด เสิร์ฟพร้อมองุ่นเคียวโฮ แล้วราดด้วยซอสที่ทำจากนกกระทาและฟัวกราส์
อีกหนึ่งเมนูเอกลักษณ์อย่าง “World Map” พร้อมเผยความแนวคิดของเชฟ Gaggan เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำอาหารระดับโลกซึ่งสอดคล้องกับปรัชญา Spirit of Travel ของเมซงได้อย่างกลมกลืน โดยเมนูนี้พร้อมพาลูกค้าทุกท่านร่วมเดินทางไปยังหลากหลายทวีปในโลกเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำ เริ่มต้นที่ยุโรปกับ ‘Carrot Waffle’ ซึ่งเชฟ Gaggan แต่งแต้มจินตนาการใหม่ให้กับวาฟเฟิลจากเบลเยียม ก่อนพาทุกท่านเดินทางกลับมายังทวีปเอเชียด้วย ‘Tartlet’ ที่ให้รสชาติแบบยุโรปผสมญี่ปุ่นผ่านการผสมผสานกันของทูน่า แฮม และหัวหอม จากนั้นจึงเดินทางกลับมายังประเทศไทยด้วย ‘Tom Yum Paper’ กับการนำเสนอเมนูคลาสสิกอย่างต้มยำกุ้งในรูปแบบแห้งพร้อมกุ้งเต้น ดอกไม้แห้ง และส้มโอเชื่อม
เซอร์ไพรส์ต่อมาที่รอทุกคนอยู่คือเมนูใหม่ประจำฤดูกาลจาก “Bites of India” นั่นคือ Sago ที่ตกแต่งด้วยสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วง ให้ทั้งรสชาติที่ดีและความน่ารับประทานในเวลาเดียวกัน เมนูนี้รังสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจาก shakarkandi ki chaat ประกอบด้วยมันหวานคลุกกับเครื่องเทศและเสิร์ฟพร้อมกับชัทนีย์หวาน ออกมาเป็นขนมท่านเล่นรสชาติเข้มข้นที่สอดรับกับสภาพอากาศที่เย็นลงในฤดูใบไม่ร่วงได้อย่างลงตัว
อาหารจานเด่นท่ามกลางผลงานสร้างสรรค์อันเลื่องชื่อของเชฟ Gaggan ยังได้รับการปรับเปลี่ยนส่วนผสมใหม่ในฤดูกาลนี้ อาทิ “Fish Paturi” เมนูปลากะพงสดที่นำมาหมักกับขมิ้นเหลือง ผักชีลาว และสมุนไพร ผสมผสานกันออกมาเป็นเมนูที่มีความสดใหม่น่ารับประทาน หรือ “Cold Curry” เมนูหอยเชลล์ที่กำหนดนิยามใหม่ให้กับแนวคิดของการนำเสนอแกงกะหรี่ร้อนแบบดั้งเดิม เติมเต็มทั้งเซอร์ไพรส์และความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
Gaggan at Louis Vuitton เรียนเชิญลูกค้าทุกท่านเข้ามาร่วมสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่มีให้เลือกทั้งมื้อกลางวัน 11 คอร์สและมื้อค่ำ 17 คอร์ส ที่ร้านอาหารแห่งแรกของเมซงในภูมิภาคเอเชียใต้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
