หากจะพูดถึง Tilly Birds หลายๆ คนก็คงจะนึกถึงเจ้าพ่อเพลงเศร้าจังหวะสนุกสนาน หรือจะเป็นวงของคนที่นิยามตัวเองว่าเป็นเด็กเนิร์ด แต่ใครจะรู้บ้างว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันมานับ 10 ปีแล้ว เริ่มต้นในช่วงมัธยมศึกษาจากสองเพื่อนซี้ เติร์ดและบิลลี่ ซึ่งเมื่อผวนชื่อของทั้งคู่ก็จะเป็นชื่อวง ตามมาด้วยไมโลที่เข้ามาในวงในช่วงมหาวิทยาลัย ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน วันนี้เราจะได้รับรู้ถึงมุมมองและภาพลักษณ์ใหม่ๆ ของทั้งสามคนผ่านเลนส์กล้องของ Esquire
ESQ: คำว่า สุภาพบุรุษ หมายถึงอะไร?
บิลลี่: สำหรับผมแล้ว คำ ว่าสุภาพบุรุษไม่มีรูปร่างที่ตายตัว เป็นความรู้สึกของความใส่ใจ เข้าใจคนอื่น มองโลกในมุมมองของคนอื่นไม่ใช่แค่ของตัวเองนี่แหละคือพื้นฐานของสุภาพบุรุษ ไม่ว่าใครก็เป็นได้แม่ผมก็เป็นได้
เติร์ด : ให้เกียรติคนอื่น ใจเย็น รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรในสถานการณ์ไหนให้ออกมาดีที่สุดทั้งสำหรับตัวเองและคนอื่น ไม่จำกัดแค่กับผู้หญิง แต่ควรจะปฏิบัติกับมนุษย์ทุกคน
ไมโล : การที่เอาใจเขามาใส่ใจเรา ควรรู้ว่าคนอื่นคิดยังไง แต่ไม่ใช่ว่ายึดแค่จิตใจของผู้อื่นอย่างเดียว แต่ต้องดูจิตใจของเราและเดินหน้าไปด้วยกัน
ESQ: คิดว่าผู้ชายในแบบของ Esquire เป็นแบบไหน?
เติร์ด: สำหรับผมคือ Keanu Reeves เป็นผู้ชายที่ผ่านความลำบากมาเยอะมาก สูญเสียภรรยา สูญเสียลูก แต่ก็ยังคงใช้ชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็ง เป็นคนที่ไม่ถือตัว
ไมโล: ในความคิดของผมคือพ่อของผมเองครับ พ่อของผมคือตัวแทนแห่งความอดทน ความใจเย็น เวลาที่ผมไม่สามารถใจเย็นหรืออดทนกับอะไรได้ ผมจะนึกถึงพ่อของผมเสมอ และสามารถเดินหน้าต่อไปได้
บิลลี่: สำหรับผม Esquire เป็นผู้ชายที่เป็นเหมือนความสงบให้กับผู้อื่น เวลาที่คนอื่นมีปัญหาก็จะสามารถมาปรึกษากับเขาได้ หรือมาพักที่เขาได้คุยแล้วสบายใจ เป็นที่พึ่งให้กับทุกคน
ESQ: Role Model ของแต่ละคน?
ไมโล: จริงๆ แล้วผมไม่มี Role Model แต่ถ้าให้เลือกจริงๆ ก็คงเป็นตัวผมดีขึ้น ในอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้นแล้วผมว่าถ้าเราจะมี Role Model หลายคนก็ไม่ผิดนะ เพราะเราสามารถหยิบสิ่งดีๆ จากเขามาปฏิบัติได้
บิลลี่: ของผมก็ไม่มีเหมือนกัน แต่ถ้าจะต้องเลือกก็คงเป็นอีกมุมของไมโล เป็นตัวผมในอดีต ตัวผมที่สอนให้เราดีขึ้น ทำให้เราเป็นตัวเราในทุกวันนี้
เติร์ด: Role Model ของผมคือพระพุทธเจ้าครับ ผมชอบวิธีการจัดการปัญหากับความใจเย็นของเขานะ แต่บางเรื่องอย่างเช่นการอดอาหารมันค่อนข้างจะสุดโต่งไปหน่อย (หัวเราะ)
ESQ: อะไรคือสิ่งที่ผู้ชายคิดว่าง่ายแต่ทำ ได้ยาก?
เติร์ด: การมีวินัยครับ การตื่นให้เช้าและทำตามแผนของตัวเองให้สำเร็จ เพราะว่าอย่างตัวผมจะมีลิสต์ในหัวว่าต้องทำอะไรบ้างในวันนี้ บางวันผมก็ทำไม่หมดเพราะตัวเองด้วยหรือว่าเหตุสุดวิสัยด้วย แต่หลักๆ คือตัวเองมากกว่า
บิลลี่: ในประสบการณ์ของผมคือการเอาชนะ Ego ตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะว่าแค่เผลอตัวคิดไปว่าตัวเองเก่งกว่าและไม่ฟังคนอื่น แค่นั้นก็ถือว่าแพ้ Ego ของตัวเองแล้ว
ไมโล: ถ้าเป็นช่วงนี้คือการเป็นพ่อบ้านครับ มันไม่ใช่แค่เรื่องครอบครัว แต่กับคนอื่นที่อยู่ร่วมกันด้วย ความยากคือการที่เรารักษาความสะอาดหรือทำความสะอาดบ้าน เราต้องอยู่ร่วมกันหลายๆ คน ทำให้มีหลายๆ อย่างที่ต้องปรับตัวเข้าหากัน
ESQ: วิธีการที่ใช้ในการก้าวผ่านช่วงเวลายากๆ?
ไมโล: พอพูดถึงช่วงเวลาที่ยากๆ มันก็จะมีหลายช่วง แล้วแต่ละช่วงมันก็จะมีวิธีที่ไม่เหมือนกัน ช่วงที่ลำบากที่สุดของผมคือการที่ผมต้องก้าวข้ามปัญหาทางความคิดด้วยตัวคนเดียว ซึ่งผมก็ใช้หลายวิธี ยกตัวอย่างเช่นการหลอกตัวเองว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็ดีขึ้น ใช้วิธีที่การมองจากมุมมองคนอื่นว่าตัวเราที่คนอื่นเห็นก็คือตัวเราปกติที่อยู่บนโลกปกติ ไม่ได้อยู่บนโลกอื่นที่ไหน
เติร์ด: มีเพื่อนและคนอื่นๆ อยู่ข้างๆ ครับ ทุกคนช่วยให้ผมผ่านไปได้ เพราะว่านอกจากเพื่อนแล้ว ผมก็ไม่มีใคร ครอบครัวของผมที่ยังอยู่ก็อยู่คนละที่ อย่างปีนี้ก็เจอกันแค่ครั้งเดียว ผมเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่คนเดียว เวลาเพื่อนชวนไปกินข้าวก็ไปตลอด เวลาเจออะไรยากๆ ก็เลยมักจะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนครับ
บิลลี่: ของผมใช้เวลาครับ ให้เวลากับตัวเองให้ตัวเองได้คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ซึ่งการใช้เวลามันก็แล้วแต่กรณีไป บางอันก็นานมาก บางอันมันก็แปบเดียว ซึ่งความยากของมันคือการที่เราต้องไม่นึกถึงมันเลยแค่เราบอกว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลากับมัน นั่นก็คือการคิดถึงมันแล้ว การใช้เวลาคือการที่เราไม่นึกถึงมันจนวันหนึ่งเราไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้แล้วครับ
ESQ: สิ่งที่รู้สึกภูมิใจกับตัวเอง?
เติร์ด: พูดแบบไวๆ ก็คือวง Tilly Birds ครับ แต่ถ้าเอาแบบเร็วๆ นี้ ต้องเกริ่นก่อนว่าผมได้มีโอกาสไปตีแบตมินตันกับรุ่นน้องของผม เขามาชวนให้ไปเล่นด้วยกันตอนช่วงโควิดแล้วตอนนี้ก็กลายเป็นงานอดิเรกของผมไปแล้ว ผมภูมิใจมากกับการที่ผมสามารถรับลูกตบของนักกีฬาทีมชาติได้บ้างแล้ว
บิลลี่: ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2022 ผมล้มบนเวทีแล้วข้อมือบาดเจ็บ ทำกายภาพบำบัดอยู่นานแต่ก็ไม่หายสักที จนหมอบอกว่ามันไม่หายหรอก ต้องปรับการใช้ชีวิตนะ ทำตัวให้แข็งแรงเข้าไว้ แต่ผมก็ฝืนออกกำลังกายมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่งมันหายดี ผมภูมิใจที่ตัวเองไม่ยอมแพ้และสามารถทำให้มือกลับมาปกติ
ไมโล: ผมไม่รู้ว่ามันจะแปลกมั้ยที่ผมจะพูดแบบนี้ ผมรู้สึกว่าผมไม่ภูมิใจอะไรในตัวเองเลย เพราะว่ามันจะดีได้มากกว่านี้เสมอ หรือพูดง่ายๆ ก็คือผมภูมิใจที่ผมรู้ว่ายังไม่ถึงเวลาที่ผมภูมิใจกับอะไรเพราะว่ามันดีกว่านี้ได้เสมอ และเราก็พอใจกับตัวเราในปัจจุบัน
ESQ: ประโยคเด็ดในการชวนสาวหรือคนที่ชอบออกเดท?
เติร์ด: สำหรับเราคิดว่าก็คงจะเป็นประโยคธรรมดาอย่าง “ไปกินข้าวกันมั้ย”, “ไปดูหนังกันมั้ย” หรือ “ไปดูพลุกันมั้ย” ซึ่งประโยคสุดท้ายยังไม่เคยพูดกับใครเลยนะ แล้วส่วนใหญ่เรามักจะเป็นคนโดนชวนมากกว่า (หัวเราะ) แต่ก็อยากเป็นคนพูดชวนอยู่เหมือนกันครับ ตอนนี้ยังไม่มีโอกาส
บิลลี่: เหมือนกับเติร์ดเลยครับ “ไปกินข้าวที่ร้านนี้กันมั้ย” แล้วเราก็ไปเน้นที่การกระทำของเราในช่วงเวลานั้นๆ แทนครับ
ไมโล: ของผมด้วยความที่ว่าเป็นคนตรงๆ ไม่ชอบพูดอะไรอ้อมค้อม มีอะไรก็พูดกันตรงๆ ไปเลยครับ
ESQ: Man At His Best ของแต่ละคน?
เติร์ด: ผู้ชายที่รู้จักตัวเองดี รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ เป็นคนที่ทุกคนนึกถึง อยากให้มาอยู่ด้วย ไม่จำเป็นต้องพูดเก่งหรือเป็นผู้นำ แค่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ
บิลลี่: สำหรับผม Man At His Best คือ “A Man Who Always Be A Student” หรือผู้ชายที่พร้อมจะเรียนรู้ตลอดเวลา และพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่เรียกว่า The Best ได้ในที่สุด
ไมโล: เป็นคนที่ทำประโยชน์ให้กับคนอื่นมากกว่าตัวเอง เห็นแก่ส่วนรวมมากว่าส่วนตน และสำหรับผมที่อยู่ในวงการเพลง Man At His Best ของผมคือผู้ชายที่เมื่อเขาจากไปแล้วทุกคนยังจดจำเขาหรือผลงานของเขาได้