ด้วยยอดขายที่ลดลงอย่างฮวบฮาบของแบรนด์แมคโดนัลด์ เครือข่ายฟาสต์ฟู๊ดเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ในสหราชอาณาจักรในปี 2020 ทำให้แบรนด์ดังต้องกลับมานั่งทบทวนตัวเองว่ามัน ‘ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหน’ ไปบ้างที่ทำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น หลังจากลงหลักปักฐานทำธุรกิจอาหารมาอย่างยาวนานถึงกว่า 50 ปีในประเทศดังกล่าว
หลังจากใช้เวลากว่า 4 เพื่อคิดหาวิธีการเพื่อกระตุ้นยอดขายให้กลับมาจนตกผลึก ก็ถึงเวลาแล้วที่แมคโดนัลด์จะเปิดเผยถึงกลยุทธ์ดังกล่าวให้ประชาชนชาว UK และชาวโลกได้รับรู้
ส่วนแผนการดังกล่าวที่แมคโดนัลด์เลือกก็คือการทดลองใช้กลยุทธ์ย่อส่วนร้าน แล้วขยายตัวออกยิงกราดไปยังพื้นที่ต่างๆให้มากที่สุด ราวกับว่าเมื่อตัวเล็กลงก็เคลื่อนตัวได้รวดเร็วแล้วเข้าถึงมากยิ่งขึ้น
ในรายละเอียดแมคโดนัลด์มองว่าการทดลองสร้างร้านในลักษณะนี้จะเป็นพิมพ์เขียวสำคัญในการดำเนินธุรกิจของแบรนด์นับจากวันนี้ไปจนถึงอีก 4 ข้างหน้าอีกด้วย
แผนดังกล่าวใช้งบประมาณในการลงทุนราวๆ 1 พันล้านปอนด์ เพื่อนำไปใช้สร้างสาขาทดลองขนาดเล็กจำนวน 200 สาขา กระจายตัวไปอยู่ในใจกลางเมืองทั่วประเทศ รวมถึงพื้นที่ริมถนน โดยรูปแบบร้านแบบนี้เหมือนย้อนกลับไปตอบโจทย์ความเป็นฟาสต์ฟู๊ดที่เน้นการกินเร็ว ภานในร้านมีที่นั่งเพียงเล็กน้อย ให้ลูกค้าซื้อนำกลับไปทานที่บ้าน และจะไม่มีบริการ Drive Through แต่เปลี่ยนเป็น Drive to แทน เหมือนเป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่าให้ขับมาซื้อที่ร้านนั่นเอง
ซึ่งร้านขนาดเล็กของแมคโดนัลด์นี้ทางแบรนด์ก็ได้ทำการทดลองอยู่ในตลาดสหรัฐอเมริการเช่นกันในชื่อ “CosMc’s’ ในรัฐอิลลินอยส์ ที่เน้นการสร้างอิมเมจร้านด้วยสไตล์เรโทร โดดเด่นด้วยเมนูเครื่องดื่มในธีม “Beverage Exploration” ทั้งน้ำมะนาว ชาแบบสเปเชียลตี้ เครื่องดื่มปั่น และเครื่องดื่มโคลด์บริว ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าทุกท่านได้ปรุงแต่งเครื่องดื่มที่ตนเองชอบได้อย่างสนุก
รูปแบบร้านดังกล่าวจะถูกทดลองทำการตลาดทันทีในปีนี้ ควบคู่ไปกับแผนการอัพเกรด 1,500 สาขาเดิมที่มีอยู่ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ และทางแมคโดนัลด์ยังคาดหวังอีกว่าโปรเจ็กต์นี้จะสร้างงานมากกว่า 24,000 ตำแหน่งได้อีกด้วย