รวม 5 สุดยอดรถคลาสสิกสุดเหนือขั้นเท่าที่เคยมีมา

0
22

Bugatti Royale

ชื่ออย่างเป็นทางการคือ Bugatti Type 41 แต่ส่วนใหญ่เราจะรู้จักในชื่อ Bugatti Royale รถยนต์สุดหรูหราขนาดใหญ่คันนี้มีเครื่องยนต์แปดสูบเรียงขนาด 12.763 ลิตร ที่มีขนาดตัวถังประมาณ 252 นิ้ว ในช่วงเวลาที่รถยนตร์รุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นนั้นมันถูกมองว่าเป็นการแสดงถึงความมั่งคั่งมหาศาลของผู้ที่ครอบครอง มีอยู่ช่วงหนึ่งที่รถยนตร์คันนี้ครองตำแหน่งรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลก ซึ่งภายหลังได้ถูกลบล้างสถิติไปแต่ก็ยังไม่มีใครขายรถยนตร์รุ่นนี้ในท้องตลาดมาสักระยะหนึ่งแล้วเช่นกัน

Tucker 48

เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Tucker Torpedo รถยนตร์คันนี้ถูกคิดค้นโดย Preston Tucker ซึ่งนับรวมรถต้นแบบแล้วนั้นมีเพียงเเค่ 51 คันในโลก ก่อนที่บริษัทจะฟ้องล้มละลาย รถยนต์ที่ผลิตขึ้นได้รับการขนานนามว่าเป็น “รถยนต์แห่งอนาคต” และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 120 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือประมาณ 193 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Bugatti 57SC Atlantic Coupe

ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในกลุ่มนักสะสมว่าเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่หายากและมีราคาแพงที่สุดในโลก Atalante ได้รับการออกแบบให้เป็นรถสองประตูที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งถือเป็นสุดยอดแห่งบูกัตติและเป็นซุปเปอร์คาร์คันแรก Bugatti Type 57 SC Atlantic Coupes นี้ถูกสร้างขึ้นเพียงสี่คันในโลกเท่านั้น โดยราคาที่เคยเปิดเผยออกมาล่าสุดคือราวๆประมาณ 114 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Rolls Royce 15 Hp

Rolls Royce 15 Hp เป็นหนึ่งในรถยนต์สี่คันที่ถูกผลิตขึ้นร่วมกันระหว่าง Charles Rolls และ Henry Royce จากข้อตกลงที่ทำขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2447 นั้นระบุไว้ว่ามียอดการผลิตเเค่เพียงหกคันเท่านั้น เเละมีเพียงเเค่คันเดียวในตอนนี้ที่ยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ และคาดว่าจะ มีมูลค่ามากกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

The Spirit Of Nemo

ถึงแม้ว่า Spirit of Nemo จะไม่ใช่รถยนต์ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อการขับขี่ในตอนเเรก เเต่มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อประกอบภาพยนตร์เรื่อง The League of Extraordinary Gentlemen แต่จริงๆแล้วนั้นรถรุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นสำหรับการใช้งานบนท้องถนน รถนอติลุสหกล้อของกัปตันนีโมนี้มีรูปลักษณ์ในการออกแบบเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่สูงราวๆ 21.65 ฟุต และได้ถูกเก็บไว้ในคอลเลกชันของที่ระลึกภาพยนตร์เป็นเวลาหลายปีหลังจากที่ซื้อมาจากบริษัทผู้ผลิต เเละมันถูกขายในปี 2015/2016 โดยว่ากันว่า ณ ตอนนี้รถยนตร์คันนี้ถูกขับไปตามถนนในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

Credit Photo : @Gettyimages @Bugatti