สำหรับฤดูร้อนปี 2024 นี้ Dolce&Gabbana แบรนด์หรูจากอิตาลี เชื้อเชิญทุกท่านไปสัมผัสประสบการณ์อันแสนพิเศษกับรีสอร์ท 4 จุดหมาย ด้วยโปรเจกต์ DG Resort ผ่านงานดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ลวดลายสุดไอคอนิกของแฟชั่นเฮ้าส์ระดับโลกจากอิตาลีผสานกับสถานที่พักอันเอ็กซ์คลูซีฟ
HOTEL CALA DI VOLPE – COSTA SMERALDA
เป็นหนึ่งในโรงแรมหรูของอิตาลีที่ทาง Dolce&Gabbana เลือกให้เข้ามาอยู่ในโปรเจกต์ DG Resort โดยนำเอาลวดลายงานศิลปะ Caretto ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเฮ้าส์มาผสมผสานให้เข้ากับบีชคลับแห่งนี้ได้อย่างมีชีวิตชีวาและลงตัวในทุกรายละเอียด ไล่ตั้งแต่ผ้าขนหนู แจกันที่วาดลวดลายด้วยมือ ไปจนถึงเบาะรองนั่งที่มีสีสันสดใส บรรยากาศอันงดงามริมชายหาดนี้ได้รับการตีความใหม่ ผ่านความคิดสร้างสรรค์ของแฟชั่นเฮ้าส์ระดับโลกจากอิตาลี
LE CARILLON – PORTOFINO
สำหรับ Portofino นั้นเปรียบได้กับไข่มุกแห่ง Liguria Riviera ตัวแทนแห่งความหรูหรา ความเป็นสากล เต็มไปด้วยภูมิทัศน์ที่น่าหลงใหล เมืองนี้ขึ้นชื่อในด้านความงามที่เป็นธรรมชาติ จัตุรัส Piazzetta อันโดดเด่นที่สามารถมองเห็นท่าเรือสุดโรแมนติก ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของไลฟ์สไตล์ในแบบ Dolce&Gabbana ซึ่งบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้นั้นเป็นฉากหลังของ Le Carillon บีชคลับชื่อดังที่ตั้งอยู่บนอ่าว Paraggi ภายในอุทยานแห่งชาติ Portofino อันเขียวชอุ่ม ทัศนียภาพชายฝั่งแบบพาโนรามา โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมและสีสันของพุ่มไม้แห่งเมดิเตอร์เรเนียนช่วยให้เฉดสีขาวและสีเขียวเข้มดูโดดเด่นขึ้นมา
ลายพิมพ์เซรามิก Verde Maiolica สีเขียวแบบล่าสุดของ Dolce&Gabbana ถูกใช้บนพื้นที่ทั้งหมดของบีชคลับ ในขณะที่ลายทางแนวตั้งที่หรูหราชวนให้นึกถึง Dolce Vita และสไตล์ดั้งเดิมของ Italian Riviera ที่ถูกนำมาตกแต่ง Pop-up สุดพิเศษ รวมถึงบริเวณบาร์ และร้านอาหาร VESTA Portofino ซึ่งร้านอาหารแห่งนี้ยังได้นำเสนออาหารที่แสดงถึงแก่นแท้ของท้องทะเล ใส่ใจในคุณภาพของวัตถุดิบอย่างเต็มที่ รังสรรค์โดยคำนึงถึงประเพณีการทำอาหารอิตาเลียนและเมดิเตอร์เรเนียนอันแสนยิ่งใหญ่ พิชิตใจเหล่าผู้มาเยือนด้วยรสชาติที่เหนือทุกสิ่ง พร้อมสร้างความทรงจำรูปแบบใหม่ให้แก่ทุกคน
GURNEY’S MONTAUK RESORT & SEAWATER SPA, HAMPTONS, NEW YORK
หนึ่งในบีชรีสอร์ทที่หรูหราและมีสไตล์ที่สุดใน Hamptons ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่ด้านตะวันออก ปลายสุดของคาบสมุทร Long Island เป็นสถานที่ที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว เป็นที่รักของนักเซิร์ฟ ศิลปิน และนักผจญภัยจากทั่วทุกมุมโลก เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเพลิดเพลินกับวันหยุดที่แสนหรูหราท่ามกลางสเน่ห์ของธรรมชาติ
ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ Gurney’s Montauk Resort & Seawater Spa จะถูกตกแต่งด้วยลาย Mediterranean Blue ของ Dolce&Gabbana มาในเฉดสีขาวและสีน้ำเงินเข้มของลวดลาย Majolica แบบดั้งเดิม ตกแต่งพื้นที่ทั้งหมดของบีชคลับและเลานจ์ นำพาสู่บรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนแท้ ๆ รวมถึงร้าน Pop-up สุดพิเศษที่สร้างสรรค์ด้วยลายทางที่สง่างามเหนือกาลเวลาในสีเดียวกัน นำเสนอเสื้อผ้าและเครื่องประดับของ Dolce&Gabbana ซึ่งคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน มอบประสบการณ์ที่สะท้อนถึงความหรูหราแบบอิตาลี
SAN DOMENICO PALACE – TAORMINA
สำหรับหน้าร้อนปี 2024 พบกับลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของ Dolce&Gabbana อีกครั้งที่ San Domenico Palace Four Seasons Hotel ใน Taormina กับการโปรเจกต์ DG Resort สุดพิเศษ และ Pop-up Boutique แห่งใหม่ใจกลางอารามเก่า ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นที่พักที่ต้อนรับด้วยความพรั่งพร้อมของ Four Seasons Hotels & Resorts ใน Sicily
Taormina ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของแคว้น Sicily เต็มไปด้วยภูมิประเทศอันน่าทึ่ง ทั้งความงามของท้องทะเล และอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ทุกสิ่งล้วนทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายสำคัญของเหล่านักท่องเที่ยวชั้นสูง ซึ่งหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดก็คือโรงแรม San Domenico Palace มีประวัติความเป็นมาเริ่มต้นในปี 1896 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสถานที่สำคัญของเหล่าราชวงศ์ นักเขียน ศิลปิน และดาราฮอลลีวูดมากมาย สถานที่แห่งนี้เป็นความภาคภูมิใจของTaormina และผู้สานต่อความมหัศจรรย์ของ Taormina ให้แก่ที่นี่ในปัจจุบันก็คือ Four Seasons ซึ่งพร้อมต้อนรับผู้คนจากทั่วโลกในแบบฉบับของ Sicily
ในช่วงฤดูร้อนปี 2024 นี้ อดีตอารามอันทรงเสน่ห์ซึ่งตั้งอยู่บนทะเล Ionian จะถูกแปลงโฉมด้วยสีขาวและน้ำเงินของลวดลาย Blu Mediterraneo อีกครั้ง หนึ่งในลวดลายอันสร้างสรรค์ของ Dolce&Gabbana ที่ไอคอนิกมากที่สุด ภาพพิมพ์นี้สร้างขึ้นเพื่อยกย่องคุณค่าของ “Fatto a Mano” ซึ่งมีรากฐานมาจากทางตอนใต้ของอิตาลี โดยการตกแต่งในครั้งนี้ จะครอบคลุมพื้นที่ระเบียงและสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ท้องทะเลได้อย่างชัดเจน ช่วยให้แขกได้หวนนึกถึงประเพณีอิตาลีโบราณและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแห่งซิซิลีอย่างแท้จริงที่สุด
นับเป็นครั้งแรกสำหรับการเทคโอเวอร์ในปีนี้ ที่จะทำให้การเดินทางสู่โลกแห่งไลฟ์สไตล์ของ Dolce&Gabbana สมบูรณ์แบบขึ้นไปอีก ด้วย Pop-up Boutique สุดพิเศษซึ่งจัดตั้งขึ้นในพื้นที่อันล้ำค่าและน่าจดจำที่สุดแห่งหนึ่งของ San Domenico ณ ใจกลางของคอนแวนต์เก่า สถานที่ซึ่งเก็บรักษาสมบัติศักดิ์สิทธิ์โบราณไว้