วันที่ 14 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมเพื่อแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ และลงมติในกรณีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และ “นายพิชิต ชื่นบาน” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) ส่งผลให้ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นสภาพจากการเป็นนายกรัฐมนตรีในที่สุด
พิชิต ชื่นบาน เป็นใคร
นายพิชิต ชื่นบาน เป็นที่รู้จักในสังคมจากการเป็นหัวหน้าทีมทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร ช่วยต่อสู้คดีที่ดินรัชดาในปี 2550 และต่อมาต้องโทษในคดีมอบถุงขนม 2 ล้านบาทให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาล ระหว่างการพิจารณาคดีเดียวกันนี้ของศาลฎีกาคดีแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และถูกจำคุก 6 เดือน และถูกสภาทนายความได้ลบชื่อออกจากทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพทนายความเป็นเวลา 5 ปี
แต่ นายเศรษฐา มั่นใจว่า นายพิชิต สามารถนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีได้และพร้อมที่จะให้ศาลตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนจะนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายพิชิต เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้ศาลตัดสินออกมาว่า นายเศรษฐา ทั้งที่รู้ หรือควรรู้อยู่แล้วว่า นายพิชิต ขาดคุณสมบัติ หรือ มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือ ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา สิ้นสุดลง
สถานการณ์หลังจากนี้
รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมืองเคยกล่าวกับ Thai PBS ไว้ว่า “สิ่งหนึ่งที่จะกระทบ ก็คือมันจะเกิดความรู้สึกกระทบในด้านจิตวิทยา เกิดสิ่งที่เรียกว่าช่องว่างทางบรรยากาศทางการเมือง ช่องว่างอันนี้อาจมีผลกระทบต่อตลาดหุ้น ต่ออะไรบ้าง ปัจจัยที่ 2 อาจจะกระทบกับการลงทุนโดยตรง ในกลุ่มที่ท่านนายกฯ ไปชวนมาลงทุนโดยตรง กลุ่มนี้อาจจะของ Wait and See สักนิดนึง ว่าการเมืองตรงนี้จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เนื่องจากเศรษฐกิจตอนนี้ คนไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นเท่าไหร่ เพราะฉนั้นการที่มีบรรยากาศการเมืองแบบนี้ อาจจะกระทบกับความเชื่อมั่น ทำให้เกิดการชะลอการลงทุนไปบ้าง”
“แต่ว่าในระยะต่อมาผลกระทบตัวนี้อาจจะลดน้อยลง เนื่องจากประเด็นแรกนโยบายที่ท่านนนายกฯ ทำ คงไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าตัวนายกฯ จะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะว่าเป็นนโยบายที่นายกฯ ได้เริ่มไปแล้ว บางนโยบายก็กลายมาเป็นนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนโยบายที่เกี่ยวกับดิจิตัลวอลเล็ต หรือนโยบายที่ท่านนายกฯไปชวนใครมาลงทุน หรือเรื่องของ Ignite Thailand เรื่องของ Soft Power แล้วก็เรื่องของ 15 อุตสาหกรรม ที่จะดึงเอาคนไทยที่ไปทำงานต่างประเทศกลับมา ซึ่งนโยบายเหล่านี้ ผมว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง เรื่อง Landbridge เหล่านี้มันกลายมาเป็นนโยบายส่วนหนึ่งของพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ”
ขอบคุณบทความจาก Thai PBS
ขอบคุณรูปภาพจาก Getty Images