Hermès แบรนด์หรูสัญชาติฝรั่งเศสต้อนรับวันแม่ในปีนี้ด้วยเรือนเวลาอันหรูหรา ที่ผ่านการรังสรรค์โดยเทคนิคและศิลปะชั้นสูงจากเหล่าศิลปินผู้มากประสบการณ์อย่างพิถีพิถันที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของ Hermès อย่างแท้จริง เพื่อมอบช่วงเวลาอันล้ำค่าแก่บุคคลที่คุณรัก โดยนำเสนอด้วยเฉดสีฟ้าโทนต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับตัวเรือนทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งนาฬิกา Arceau Mon Premier Galop, นาฬิกา Slim d’Hermès Le Sacre des Saisons รุ่น Winter และ นาฬิกา Arceau Chorus Stellarum
Arceau Chorus Stellarum
มาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้มแบบด้าน โดดเด่นด้วยหน้าปัดตัวเรือนไวท์โกลด์ที่เปี่ยมด้วยความน่าอัศจรรย์และเหนือความคาดหมายแห่งอนาคตผ่านพื้นหลังของมวลหมู่ดาวประกายแสงเคลือบทองที่ใช้เทคนิคลงยาแบบ Champlevé นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดของดวงดาวเคลือบแล็กเกอร์ที่ชุบโรเดียมอันแสนพร่างพราว โดยมีภาพนักขี่ม้าผู้ท่องนภายามราตรีที่ถูกรังสรรค์ผ่านงานแกะสลักและวาดภาพสู่หุ่นกลเยลโลว์โกลด์เคลื่อนไหวได้ ภายใต้การขับเคลื่อนด้วยจักรกลสปริงที่เชื่อมต่อเข้ากับปุ่มกด ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกาเพื่อมอบภาพแห่งการเคลื่อนไหว “on-demand impulse” เพียงแค่การกดปลายนิ้ว ซึ่งเชื่อมโยงเข้ากับการ์ตูนร่วมสมัย มังงะ และวัฒนธรรมการเล่นเกมอันเป็นความหลงใหลของผู้ออกแบบชาวญี่ปุ่น
Slim d’Hermès Le Sacre des Saisons รุ่น Winter
เรือนเวลาแห่งฤดูหนาวเฉดสีน้ำเงินรอยัลบลู ได้นำเสนอ หมาป่าหิมะผ่านการรังสรรค์ขึ้นด้วยงานลงยาแบบไพลอนเน่ และกระโจนอย่างสง่างามภายใต้ตัวเรือนไวท์โกลด์ ประดับด้วยเพชรบาแกตต์คัต 52 เม็ด โดยเทคนิคอันละเอียดอ่อนนี้ประกอบด้วยการแทรกเกล็ดทองหรือเงินไว้ระหว่างชั้นของงานลงยาต่าง ๆ เพื่อสร้างสรรค์เป็นการเล่นกับแสง ความโปร่งใสและมิติแห่งภาพ
Arceau Mon Premier Galop
ประกอบคู่กับสายหนังวัวสวิฟต์ในเฉดสีเซเฟอร์บลูที่นำเสนอสีฟ้าของโทนสีฤดูร้อน เสริมด้วยการประดับของเพชรรวม 82 เม็ดบนตัวเรือนไวท์โกลด์ มาพร้อมหน้าปัดที่โดดเด่นด้วยสุนทรียะอันงดงามของภาพม้าพร้อมพื้นหลังธรรมชาติ ผ่านการรังสรรค์จากงานหัตถศิลป์โดยใช้เส้นด้ายไหมร่วมกับชิ้นหนังที่มีความหนาเพียง 0.5 มม. นอกจากนี้ภายใต้การทำงานของเรือนเวลาถูกขับเคลื่อนด้วยกลไก Manufacture Hermès H1912 อีกทั้งยังมีฝาหลังกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่เผยให้เห็นงานฝีมือการตกแต่งและการประดับลวดลาย “sprinkling of Hs” ทั้งบนสะพานจักรและโรเตอร์ขึ้นลาน