Recap พิธีเปิดมหกรรมกีฬาแห่งชาติ Olympics Paris 2024

0
24

เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่กับงานมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติอย่าง Olympics 2024 โดยในครั้งนี้จัดขึ้น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 34 แล้วตั้งแต่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1896 ณ ประเทศกรีซ 

ซึ่งในครั้งที่ 34 นี้เองประเทศเจ้าพ่อแฟชั่นอย่างฝรั่งเศสก็ได้เตรียมพิธีเปิดสุดอลังการและแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ซึ่งสามารถเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมทั่วทั้งโลก จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง วันนี้เรารวบรวมมาไว้ให้ได้อ่านแล้ว

ฝรั่งเศสนับว่าค่อนข้างใจกล้ามากๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกของ Olympics ที่มีการจัดพิธีเปิดด้านนอกสเตเดี้ยม ที่ไม่มีใครเคยทำมาเพราะว่าปัจจัยเสี่ยงค่อนข้างเยอะ แต่ฝรั่งเศสทำได้ ด้วยการพาทัพนักกีฬากว่า 10,000 ชีวิตจาก 206 ประเทศ ล่องเรือจำนวน 85 ลำในแม่น้ำ Seine นอกจากนี้เหรียญรางวัลทั้งหมดจะมีชิ้นส่วนจากหอ Eiffel เป็นดั่งสัญลักษณ์และตัวแทนของฝรั่งเศสผสมอยู่ด้วย 

ซึ่งแน่นอนว่าประเทศแรกที่ได้เห็นคือประเทศกรีซที่เป็นบ้านเกิดของโอลิมปิกส์ และประเทศไทยจะเป็นชาติลำดับที่ 184 ซึ่งเป็นอันดับท้ายๆ ซึ่งไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันทั้ง 51 คน ซึ่งผู้ถือธงประจำชาติไทยก็คือ “เทพบิว” ภูริพล บุญสอน เจ้าของสถิตินักกีฬาที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก 100 เมตรชายด้วยวัยต่ำกว่า 18 ปี และ “น้องเอสที” วารีรยา สุขเกษม นักกีฬาสเก็ตบอร์ดหญิงซึ่งเป็นนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุดของไทยที่เคยส่งมา แต่ไม่ใช่คนที่อายุน้อยที่สุดในโอลิมปิกส์ครั้งนี้ เพราะเจ้าของตำแหน่งคือ Zheng Haohao นักกีฬาสเก็ตบอร์ดหญิงอายุ 11 ปี

ไฮไลต์ในช่วงต้นของงานคือการที่ได้ Snoop dogg มาเป็นคนถือคบเพลิงไม้สุดท้าย และ Pharell Williams ก็เป็นคนนำคบเพลิงที่ออกแบบโดย Mathieu กลับคืน จากนั้นก็จะเป็นโชว์สุดพิเศษที่ทางฝรั่งเศสรังสรรค์ขึ้นมา โดยศิลปินคนแรกที่เราได้รับชมการแสดงคือ Lady Gaga ที่มาพร้มอกับชุดจาก Dior Haute Couture พร้อมขนนกสีชมพู และเครื่องประดับศีรษะจาก Stephen Jones ซึ่งเธอมาในบทเพลง “Mon truc en plumes” ของศิลปินชาวฝรั่งเศสในตำนานอย่าง Zizi Jeanmaire มีการทำเพลงใหม่ให้ทันสมัยขึ้น พร้อมขับร้องเป็นภาษาฝรั่งเศสให้ทุกคนได้ฟัง

โชว์จะนำเสนอคอนเซปต์ “Liberte Egalite Fraternite” ซึ่งหมายถึง เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ โดยจะเล่าผ่านเรื่องราวการปฎิวัติฝรั่งเศสและรูปภาพ La Libertè guidant le peuple ผลงานชิ้นเอกของจิตรกรชาวฝรั่งเศสคนสำคัญแห่งยุคโรแมนติกอย่าง Eugène Delacroix ที่ถูกนำกลับมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อีกครั้งหลังการบูรณะ

พร้อมทั้งหยิบยกเรื่องของ Marie Antoinette ที่ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตินมาประยุกต์ใช้ในโชว์ โดยเราจะเห็น Marie Antoinette ในภาพของคนหิ้วหัวตัวเองที่ถูกตัด ประกอบกับเพลง Do you hear the people sing ที่ขับร้องโดยวงเมทัลสัญชาติฝรั่งเศสที่ชื่อ Gojira

ในส่วน Egalite หรือความเสมอภาค จะนำแสดงโดย Aya Nakamura ศิลปินชาวฝรั่งเศส-มาลี พร้อมกับกองกำลัง Republican Guard ซึ่งรับผิดชอบหน้าที่รักษาความปลอดภัยพิเศษในพื้นที่ปารีส และวงโยธวาทิต จะเห็นได้ว่ากองกำลังทั้งหมดนั้นเป็นคนผิวขาว ส่วนทางฝั่ง Aya Nakamura นั้นเป็นคนผิวดำ แต่ก็สามารถทำให้โชว์ออกมาสมบูรณ์แบบได้ เป็นตัวแทนของความเสมอภาค และในโอลิมปิกครั้งนี้ อัตราส่วนของนักกีฬาชายกับนักกีฬาหญิง ครึ่งหนึ่งเท่ากันคือฝ่ายละ 5,250 คน แสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียมของงานในครั้งนี้

นอกจากนี้ทางเจ้าภาพยังสอดแทรกรายละเอียดเล็กไว้ๆ ในภาพการถ่ายทอดสดเสมอ เช่น งานศิลปะต่างๆ ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ louvre อนิเมชั่นต่างโดยเฉพาะ Minion จากเรื่อง Despicable Me ที่นำเสนอกีฬาต่างๆ ในรูปแบบเฉพาะตัวพร้อมทั้งวานแผนขโมยรูปภาพ Mona Lisa แต่ก็ไม่สำเร็จก่อนที่กล้องจะตัดไปให้เราเห็นภาพ Mona Lisa จำลองลอยอยู่บนแม่น้ำ Seine

ซึ่งตลอดทั้งการโชว์ทั้งหมดที่กล่าวมาเราจะสังเกตบุคคลที่กำลังวิ่งถือคบเพลิงทั้งบนหลังคา บนพื้นดิน หรือบนเรือ พร้อมกับปิดบังหน้าตาและสวมอู้ดคลุมที่หัวเข้ามาในฉากตลอด ซึ่งคาดว่าน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจาก Assassin’s Creed Unity เกมจากค่าย Ubisoft ที่มีฉากหลังเป็นประเทศฝรั่งเศสในยุคแห่งการปฏิวัติ และเกมนี้มีข้อมูลที่ละเอียดมากถึงขนาดที่ว่านำแบบจำลองของมหาวิหาร Notre Dame มาตัวช่วยในการบูรณะ หลังจากเคยเกิดเหตุไฟไหม้เมื่อปี 2019

สุดท้ายชายในชุดคลุมก็วิ่งมาถึงนะจุดสิ้นสุดของเส้นทางบริเวณ Trocadéro ซึ่งเป็นจุดที่ชมหอ Eiffel ได้ดีที่สุดและเป็นจุดที่นักกีฬาต้องมารวมตัวกัน พร้อมกับส่งต่อคบเพลิงไปให้กับตำนานกองกลางชาวฝรั่งเศสอย่าง Zinédine Zidane และส่งต่อไปให้ Rafael Nadal นักเทนนิสชาวสเปนอดีตมือวางอันดับ 1 ของโลกก่อนจะนั่งเรือต่อไป ซึ่งภายในเรือมีบรรดาตำนานนักกีฬามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Carl Lewis ตำนานนักกรีฑาประเภทลู่และลานชาวอเมริกัน, Serena Williams ยอดนักเทนนิสสาวชาวอเมริกัน และ Nadia Comaneci นักยิมนาสติกคนแรกที่ได้คะแนนเต็ม 10 คะแนนใน Olympics ซึ่งทั้งหมดล้วนคว้าเหรียญทองมาหมดแล้ว

จากนั้นก็ส่งต่อไปให้กับนักกีฬาชาวฝรั่งเศสอีกหลายคน หนึ่งในนั้นคือ Charles Coste นักปั่นจักรยานชาวฝรั่งเศส เจ้าของเหรียญทองที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสซึ่งได้มาในโอลิมปิก 1948 ปัจจุบันเขาอายุ 100 ปีแล้ว ก่อนที่จะส่งต่อให้ไม้สุดท้ายอย่าง Teddy Riner นักยูโดชาวฝรั่งเศสเจ้าของเหรียญทอง 3 สมัย และ Marie-José Pérec นักวิ่งหญิงชาวฝรั่งเศสเจ้าของเหรียญทอง 3 สมัยเช่นกัน

ทั้งคู่จุดเพลิงลงในกระถางเพื่อปล่อยบอลลูนอากาศร้อนที่สวน Tuileries ถือเป็นการรำลึกครั้งแรกที่ฝรั่งเศสสร้างบอลลูนพลังงานไฉโดรเจนนี้ขึ้นมาเมื่อปี 1783 และเป็นประเทศแรกของโลกอีกด้วย

อีกหนึ่งจุดเด่นของงานคือผู้ที่เชิญธงของ Olympics ขึ้นสู่ยอดเสามาในรูปแบบของสตรีขี่ม้าขาว ตัวแทนของ Sequana หรือเทพีแห่งแม่น้ำ Seine ซึ่งได้แรงบรรดาใจมาจาก Joan of Arc หรือ Jeanne d’Arc วีรสตรีหญิงชาวฝรั่งเศส ผู้นำกองทัพฝรั่งเศสไปสู่ชัยชนะครั้งสำคัญที่เมือง Orléans ในปี ค.ศ. 1429 โดยเธอปรากฎบนหลังม้าในชุดโล่สีเงินวาวจากการสร้างสรรค์ของ Jeanne Friot 

และปิดท้ายด้วยการกลับมาของ Celine Dion ที่ร้องเพลงฝรั่งเศสชื่อ Hymne a l’amour บนหอไอเฟล ที่บอกว่ากลับมาเพราะว่าเธอไม่ได้แสดงสดมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว เนื่องจากเธอเป็น “Stiff Person Syndrome” หรือ “โรคคนแข็ง” จะมีอาการกระตุกที่แขนขาและกล้ามเนื้อ ตัวแข็ง ไวต่อสิ่งเร้า ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก เป็นโรคที่หายากมาก มีโอกาส 1 ในล้านที่จะเกิดขึ้น แต่เธอก็รักษาตัวจนกลับมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากเรื่องดีๆ ก็ยังมีเรื่องแย่ๆ อยุ่เหมือนกัน เมื่อตอนที่ถึงคิวของประเทศเกาหลีใต้ในการประกาศชื่อ ทางเจ้าภาพประกาศชื่ออกมาเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า “Republique populaire democratique de Coree”  หรือ “สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี” ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของเกาหลีเหนือ สร้างความไม่พอใจให้แก่นักกีฬาและประชาชนชาวเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก

ในตอนนี้มหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติอย่าง Olympics ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ร่วมส่งแรงเชียร์ให้กับนักกีฬาชาวไทยทั้ง 51 ชีวิตให้คว้ารางวัลแห่งเกียรติยศเพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว และกองเชียร์ชาวไทยทุกคน

ขอบคุณรุปภาพจาก Getty Images