เมื่อวันที่ 11 มิถุนยน 2024 Apple ได้ทำการเปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS 18 พร้อมเผยภาพตัวอย่างให้แก่ผู้คนทั้งโลกได้รับชม และแน่นอนตัวชูโรงของงานครั้งนี้คือการที่ Apple ได้นำเอาโมเดลของ ChatGPT มาใช้พัฒนา Apple Intelligence และนอกจากนี้ยังมีการเปรยไว้ว่า Apple Intelligence อาจมีการผสานเข้ากับโมเดล LLM จากค่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต โดยตัว Apple Intelligence จะสามารถทำอะไรได้บ้างและยังมีฟังก์ชันอะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ เราสรุปมาให้ได้อ่านกันแล้ว
เริ่มต้นที่ Apple Intelligence แม่ทัพของงาน ทาง Apple กล่าวว่าการทำงานของ Apple Intelligence จะอยู่บนตัวอุปกรณ์ ทำให้เราแน่ใจได้ว่าข้อมูลของเราจะไม่รั่วไหลออกไป แต่ก็มีบางงานที่ต้องนำไปประมวลผลบนคลาวด์ ซึ่งเรียกว่า Private Cloud Compute ที่จะมีการเข้ารหัสและไม่มีการเก็บข้อมูล
โดยสิ่งแรกที่น่าสนใจคือ Writing Tools ที่จะมาช่วยให้การเขียนของเรานั้นออกมาได้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ทั้งการพิสูจน์อักษร ปรับสำนวน และการสรุป สามารถนำไปใช้ได้กับแอปแทบทุกตัว
อย่างต่อมาคือ Image Playground ที่ช่วยให้เราแสดงความคิดสร้างสรรค์ได้มากยิ่งขึ้น โดยการสร้างภาพขึ้นมาใหม่ในเวลาไม่กี่วินาที มีทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกันคือ Animation, Illustration และ Sketch
นอกจากนี้เรายังสามารถลบวัตถุที่เราไม่ต้องการออกจากภาพถ่ายของเราด้วย Clean Up นอกจากนี้ยังสามารถนำภาพหรือวิดีโอที่อยู่ภายในเครื่องมาสร้างเป็นวิดีโอใหม่ และ Apple music ก็จะแนะนำเพลงที่เข้ากันให้กับเราอีกด้วย
แน่นอนว่า Siri เองก็พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น โดยจะมีความเป็นธรรมชาติ เข้าใจบริบทของภาษามากขึ้น นอกจากนี้ในการพูดคุยโต้ตอบกับ Siri เรายังสามารถสลับไปมาระหว่างข้อความและเสียงพูดได้อีกด้วย
นอกจากเรื่องของ AI ที่เพิ่มเข้ามาแล้ว Apple ยังมีฟังก์ชันอีกเพียบที่ยังรอให้เราได้รับชม เริ่มต้นที่หน้าจอโฮมที่เราสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ สามารถนำไอคอนของแอปรวมทั้งวิดเจ็ตไปไว้ตรงไหนก็ได้ ปรับเป็นสีให้เป็นโทนมืดได้ และเช่นกันในส่วนของหน้าต่าง Control Center ที่ถูกออกแบบใหม่ให้เป็นวงกลม เราสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างที่ใจเราต้องการมากขึ้น ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น หน้าจอล็อกเราก็สามารถปรับเปลี่ยนได้เช่นกัน จากที่เคยเป็นปุ่มไฟฉายกับกล้อง ตอนนี้เราสามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ตามที่ต้องการ
ปรับปรุงแอปรูปภาพใหม่ให้เป็นมุมมองเดียว โดยการนำตารางรูปภาพไปไว้ด้านบน และเพิ่มคอลเลคชั่นต่างๆ ไว้ด้านล่าง นอกจากนี้ยังมีมุมมอง “คารูเซล” แสดงอัลบั้มภาพ คน สัตว์ สถานที่ และอื่น ๆ ซึ่งมีการอัปเดตรูปภาพทุกวัน
แอปข้อความหรือ iMessage ก็ถูกปรับปรุงเช่นกัน มีเอฟเฟ็กต์ข้อความแบบใหม่ ที่เราสามาถนำไปใช้กับคำ ตัวอักษร ข้อความ หรืออิโมจิก็ได้ สามารถขีดฆ่าหรือขีดเส้นใจ้ข้อความได้ Tapback ที่สามารถอิโมจิหรือสติกเกอร์ได้มากขึ้น อีกทั้งยังสามารถตั้งเวลาการส่งข้อความได้อีกด้วย ยังไม่พอ ตอนนี้คุณสามารถส่งข้อความผ่านดาวเทียมได้แล้ว ในกรณีที่ไม่มี Wi-Fi หรือ Cellular
เมลแบบใหม่ที่คุณสามารถจัดหมวดหมู่ข้อความได้ดียิ่งขึ้นโดยมีหมวดดังนี้ Primary อีเมลส่วนตัวหรือข้อความสำคัญ Transactions อีเมลการยืนยันและใบเสร็จ Updates อีเมลข่าวสารและสื่อต่างๆ Promotion อีเมลคูปองและการตลาด
Safari แบบใหม่จะช่วยสรุปสาระสำคัญของเว็บไซต์นั้นๆ ด้วย Highlights และ Reader ที่ถูกปรับปรุงให้เหล่านักอ่านสามารถเพลิดเพลินไปกับการอ่านได้มากขึ้น โดยการจัดระเบียบเนื้อหาและสร้างสารบัญขึ้นมา
แอปรหัสผ่านที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จากระบบ Keychain ที่เปิดตัวมากว่า 25 ปีแล้ว จะช่วยให้เราเข้าถึงรหัสผ่าน, พาสคีย์, รหัสผ่าน Wi-Fi และรหัสยืนยันได้อย่างสะดวกรวดเร็วและยังช่วยบอกจุดอ่อนในรหัสผ่านของเราได้อีกด้วย
ในตอนนี้แอปทุกแอปใน iOS 18 สามารถล็อคด้วย Touch ID และ Face ID ได้แล้ว นอกจากนี้เรายังสามารถซ่อนแอปที่ไม่อยากให้ใครเห็นได้ โดยจะไม่มีการแจ้งเตือนและเนื้อหาข้างในแอปก็จะไม่ถูกค้นเจอ และเราสามารถเลือกแชร์เฉพาะผู้ติดต่อบางคนกับแอปได้อีกด้วย
นอกเหนือจากสิ่งที่กล่วไปแล้วยังมีฟังก์ชันอีกหลายอย่างที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น เกมโหมดที่จะช่วยให้ Frame Rate ของคุณนิ่งและเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมได้อย่างรวดเร็ว SharePlay ที่เพิ่มจำนวนผู้ใช้เพื่อช่วยในการควบคุมเพลงที่เล่นจาก HomePod, Apple TV, ลำโพง Bluetooth ได้ AirPods Pro รุ่นที่ 2 จะรองรับท่าทางในการสั่งการ เช่น การพยักหน้าเพื่อตกลง มาพร้อม Voice Isolation หรือการแยกเสียงเพื่อคุณภาพเสียงขณะโทร ทำให้ได้ยินเสียงคนพูดชัดเจนขึ้น และอื่น ๆ
สำหรับ iPhone รุ่นที่รองรับ iOS 18 มีดังนี้
iPhone 15
iPhone 15 Plus
iPhone 15 Pro
iPhone 15 Pro Max
iPhone 14
iPhone 14 Plus
iPhone 14 Pro
iPhone 14 Pro Max
iPhone 13
iPhone 13 mini
iPhone 13 Pro
iPhone 13 Pro Max
iPhone 12
iPhone 12 mini
iPhone 12 Pro
iPhone 12 Pro Max
iPhone 11
iPhone 11 Pro
iPhone 11 Pro Max
iPhone XS
iPhone XS Max
iPhone XR
iPhone SE (รุ่นที่ 2 หรือใหม่กว่า)
โดยในตอนนี้ทาง Apple ได้เปิดให้นักพัฒนาได้เข้าไปทดสอบ iOS 18 Developer Beta แล้ว ในส่วนของ iOS 18 Public Beta นั้นจะเปิดให้ทดสอบในเดือน ก.ค. 2024 โดยผู้ที่สนใจ ก่อนที่จะปล่อยให้เราซึ่งเป็นผู้ใช้ทั่วไปได้อัปเดตและใช้งานในช่วงปลายปี 2024